เวลาที่ใช้: 100ชม.+
Missable Trophy: ไม่มี
- Part 1Part 2Part 3Part 4Part 5
**บทสรุปนี้ เล่นบน PS4 เป็นหลัก
เริ่มเกมมา จะมี 2 คำสั่งให้เลือก คำสั่งแรกจะเริ่มเกมใหม่เลย ก็เลือกช่องสร้างเซฟ และตั้งชื่อเป็นญี่ปุ่น ส่วนคำสั่งที่ 2 จะเป็นการใส่รหัสสำหรับเช็คพ้อยท์ที่เราไปเล่นเครื่องอื่น
หลังจากตั้งชื่อเสร็จแล้ว จะให้ปรับแสง เสร็จแล้วก็จะเริ่มเข้ามูฟวี่ของเกม
ศิลาแห่งเทพ
หลังจบมูฟวี่แล้วเราจะมาอยู่ที่ เขิงเขาหินแห่งเทพ เดินไปจะเจอป้าขึ้นมาร์คสีชมพู คุยแล้วป้าจะสอนให้กด
เพื่อดูแผนที่ (ข้ามไปก็ได้นะ) เดินตรงไปตรงสะพานจะเจอลุงขึ้นมาร์คชมพูเหมือนกัน คุยแล้วลุงจะสอนให้กดเพื่อเข้าเมนู (ข้ามไปก็ได้) วิ่งข้ามสะพานตรงไปจะเจออีเว้นท์ หลังจบแล้วพบ สไลม์ 3 ตัว กำจัดหมดแล้ว ตรงที่เหมือนแท่นบูชาด้านซ้ายมือ หลังแท่นมีหีบให้เก็บ เสร็จแล้ววิ่งตรงเข้าถ้ำไปเลย เข้าถ้ำมาแล้วเจอสไลม์ตัวแรกบนฟิลด์ เกมจะสอนเรื่องกด
ฟันศัตรูบนแผนที่ วิ่งเข้าไปจนด้านในสุด เจออีเว้นท์สู้กับศัตรูที่เป็นควัน ตรงนี้น่าจะใช้เวทย์ได้แล้ว เอาเวทย์ยิงเลยง่ายดีไม่ต้องคิดมาก เมื่อชนะแล้วปีนเถาวัลย์ขึ้นไปด้านบน วิ่งเข้าด้านในสุดจะพบกับอีเว้นท์ เมื่อจบอีเว้นท์แล้ววิ่งกลับออกมาเกมจะถามว่าจะกลับไปที่เชิงเขาไหมก็ตอบ はい ไป แล้วเราจะกลับตรงเชิงเขา ให้เราวิ่งยาวๆตรงไปจนตัด event แล้วเราจะมาอยู่ในหมู่บ้านพร้อมถ้วย
神の岩にて เด้งเริ่มต้นผจญภัย
เข้ามาในหมู่บ้าน เกมจะให้กลับไปบ้านตัวเอง ก็ให้วิ่งกลับไปที่บ้านบริเวณด้านขวาบนของหมู่บ้านจะเจออีเว้นท์ จบแล้วจะเป็นเวลากลางคืน ลองกดดูแผนที่จะเห็นจุดวงกลมสีชมพูด้านซ้ายล่าง ให้วิ่งไปจะพบกับเอม่า หลังจบอีเว้นท์แล้ว เราก็จะพร้อมเป็นผู้กล้าออกผจญภัยแล้ว
ออกประตูหน้าบ้านไป ตรงบ้านที่อยู่ด้านล่างของบ้านเรา จะมีมาร์คสีม่วงๆ อันนี้จะเป็นเควสให้ทำ
Quest No.1 みんなに やさしくหลังจากทำทุกอย่างเสร็จในหมู่บ้านแล้ว เดินขึ้นเหนือไปทางออกด้านบน คุยกับป้าเพลร่า แล้วตอบข้อแรก จะเป็นอีเว้นท์ส่งเราออกเดินทางพร้อมม้าตัวนึง พร้อม Tutorial
R2 = Dash
ถ้าต้องการเรียกม้า ต้องไปหาเสาที่เป็นกระดิ่งเพื่อเรียก ส่วนใหญ่จะอยู่ตามหน้าเมือง กับ แคมป์ไฟ
จุดหมายต่อไปที่เราจะไปคือด้านเหนือสุดของแผนที่คือ デルカダール国王 ให้เราขี่ม้าไปยาวๆ หรือจะแวะตีมอนระหว่างทางก็แล้วแต่ โดยในระหว่างทางเราจะเจอแคมป์ไฟครั้งแรก เราสามารถนอนฟื้น hp ได้ และมีรูปปั้นเทพธิดาไว้ให้เหมือนเราอยู่โบสถ์ทุกอย่าง
ในระหว่างที่เราไปนี้ หากสู้ไปเรื่อยๆจะมีที่เข้าสู่สภาวะ zone ซึ่งจะมี Tutorial มาสอน โดยเมื่อเราถูกโจมตีไประดับนึง จะเข้าสู่สภาวะ zone จะทำให้ตัวเรามี stat เพิ่มขึ้นเป็นระยะเวลานึง และสภาวะ zone จะมีต่อเนื่องได้หลายๆการต่อสู้จนกว่าจะหมดเวลาของมัน
ถ้าหาก lv up ระหว่างการต่อสู้ จะได้ skill point แล้วมีหน้า Tutorial มาสอน ก็ไม่มีไรมากแค่อัพสกิลตามช่อง โดยมันจะแบ่งตัวละครละ 3 สาย
ไปต่อให้ถึงด้านบนสุด เข้ามาจะเป็นเมืองเดลคาดาล デルカダール城下町 ให้กดดูแผนที่ จะเห็นจุดม่วงๆ 2 จุด แปลว่ามี 2 เควส
เมื่อทำเควสหมดแล้วก็วิ่งตรงไปบนสุดเข้าปราสาทไปพบกับพระราชาได้เลย
เมื่อเจอกับพระราชาแล้ว เค้าจะถามหาสร้อยคอกับตราสัญลักษณ์บนมือ แล้วจะหลอกถามข้อมูลจากเรา จากนั้นก็จะบอกว่าเราเป็นเด็กแห่งหายนะ เป็นวิญญาณปีศาจที่กลับมาเกิดใหม่ในร่างผู้กล้าแล้วก็จับตัวเราไปขังคุก จบเราจะได้ถ้วย
冒険の始まりวิกฤต !
ให้เราสำรวจประตูห้องขัง แล้วจะเข้าคัทซีนจะพบชายสวมฮูดถามว่าไปทำไรมาทำไมโดนขัง เราก็บอกไปว่าเราเป็นผู้กล้า แล้วก็โดนราชาลากคอมานี่ แล้วชายสวมฮู๊ดก็จัดการกับทหารยามที่มาส่งข้าวแล้วแย่งกุญแจมาพาแหกคุก เพราะเชื่อว่าเป็นไปตามคำทำนาย เมื่อบังคับตัวได้ก็วิ่งไปห้องขังของชายสวมฮู๊ดแล้วจะมีทางใต้ดินให้ลงไป
ตรงนี้จะไม่มีแผนที่ ให้วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ แล้วทหารจะไล่ตามเรามา ให้เราหนีไปเรื่อยๆจนถึงจุดนึงที่มีทหารขวางอยู่ไปไม่ได้ ให้ไปอีกทางโดยเราจะต้องแอบไม่ให้ทหารเห็น โดยชายสวมฮู๊ดจะแอบทหารให้เราดู ให้เราดูจังหวะแล้วทำตาม (ถ้าพลาดจะต้องสู้กับทหาร) หลบประมาณ 3 ครั้ง ก็จะถึงสะพาน และสะพานก็จะพังร่วงลงมา
เราจะอยู่ไหนก็ไม่รู้ มีจุดเซฟให้ด้วย วิ่งไปตามทางแล้วเราจะเจอมังกรอยู่ในถ้ำวิ่งไล่งับเรา ให้เราวิ่งหนีไปเรื่อยๆ พอหนีมังกรรอดแล้ว ทหารจะตามมาจนเจอ เราก็จะหนีทหารไปจนถึงหน้าผา ชายสวมฮู๊ดจะเปิดฮู๊ดออก พร้อมแนะนำตัวว่าชื่อ คามิว พร้อมกระโดดหน้าผาไปในที่สุด และเกมจะตัดเข้าสู่ opening หลังจากนั้นเราจะฟื้นขึ้นมาในโบสถ์แห่งหนึ่งพร้อมถ้วย
危機一髪!พลังของผู้กล้า
ออกจาห้องมา เราจะถามเรื่องสถานการณ์กับบาทหลวงของโบสถ์ เดินออกมาข้างนอกเราจะตกลงกันว่าจะกลับไปดูที่หมู่บ้านอิชิ(หมู่บ้านของผู้กล้า) แต่ก่อนหน้านั้นคามิวจะกลับไปเอาของที่ลืมไว้ที่เมืองเดลคาดาลซะก่อน แล้วคามิวจะเข้ามาในปาร์ตี้อย่างเป็นทางการ จากนั้นจะขึ้น Tutorial เรื่องท่าประสาน คือต้องอยู่ในสภาวะ zone ก่อน แล้วจะมีคำสั่งพิเศษ れんけい โผล่ขึ้นมาให้กด
หน้าโบสถ์มีบ่อน้ำ ลงไปเก็บของได้นะ เสร็จแล้วเดินขึ้นไปที่เมืองด้านบนของแผนที่ ก่อนจะขึ้นบันไดด้านบนไปจะเจอต้นไม้ข้างทางต้นนึง ลองกระแทกให้ผลไม้มันหล่นลงมาแล้วเก็บ เรดเบอรี่ レッドベリー ไปด้วย (เดี๋ยวต้องใช้ของจากต้นนี้)
เมื่อมาถึงเมืองแล้วคามิวจะบอกว่าออปที่เค้าหาจะซ่อนไว้ตรงที่ทิ้งขยะตรงกลางเมือง ให้วิ่งไปตรงกลางเมืองเลย เราจะเห็นสัญลักษณ์ ! ตรงกองขยะ
แต่คามิวจะหาออปไม่เจอ เลยนึกขึ้นได้ว่าจะต้องเป็นอีกคนเอาไปแน่ๆ แต่ต้องไปถามที่อยูาจากคนๆนึงซะก่อน แล้วคามิวจะชี้บ้านหลังนึง
ก็วิ่งเข้าไปถามแต่เจ้าของร้านกลับไม่อยู่ คามิวจะให้ให้เราช่วยหา ให้เราเดินออกมาไปตรงหอสูงๆที่อยู่ด้านเหนือของเมือง
ปีนบันไดขึ้นไปจะเข้าคัทซีน ซึ่งเราจะเห็นวิธีผ่านประตูขึ้นไปเมืองด้านบนหลายๆวิธี จากนั้นกระโดดลงมาด้านล่างคามิวจะเดินเข้ามาหาบอกว่าหาไม่เจอ แต่เราจะบอกว่าเราเห็นผู้หญิงผมแดงที่คามิวตามหาแล้ว ให้กลับไปที่ร้านเมื่อกี้ แล้วคามิวจะถามหาที่อยู่ผู้ชายที่ชื่อ เดค ซึ่งเธอบอกว่า เดคจะเปิดร้านขายของอยู่เมืองส่วนบน แล้วเราจะหาวิธีผ่านเข้าเมืองไปด้านบนกัน
วิธีผ่านไปเมืองด้านบนมี 2 วิธี เลือกใช้วิธีไหนก็ได้
วิธีที่ 1 ตอนเราขึ้นไปหอ เราจะสังเกตว่าทหารที่เฝ้าประตูกลัวหมา ให้เราเดินไปหาเด็กผู้หญิงคนนึง (จะมีมาร์คสีชมพูบนหัว) เข้าไปคุยเพื่อขอยืมหมาจากเธอ โดยเธอยื่นเงื่อนไขว่าต้องหาของ 2 อย่างมาให้ก่อนถึงจะให้ยืมหมา อย่างแรกคือ เรดเบอรี่ レッドベリー ที่ให้เก็บตรงต้นไม้ก่อนเข้าเมืองเมื่อกี้ และอย่างที่ 2 คือ น้ำบริสุทธิ์ せいすい ซึ่งให้เราไปซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ อันละ 20g
หลังจากได้ทั้ง 2 อย่างแล้ว กลับไปคุยกับเด็กผู้หญิง เธอจะให้เรายืมหมา แล้วก็พาหมาไปหาทหารยาม แล้วเราก็จะผ่านประตูไปได้
วิธีที่ 2 ให้เราปีนบันไดตามรูปนี่ขึ้นไป
เดินไปตามทาง แล้วเลาะกำแพง (ดูแผนที่ด้วย จะเห็นทางที่ไปต่อได้) แล้วไต่เชือกไปฝั่งตรงข้าม ข้ามไม้พาดไปจนสุดจะเห็นผู้ชายใส่ชุดเขียวยืนอยู่ คุยแล้วจะรู้ว่าเค้ามีชะตากรรมเหมือนเราคืออยากไปเมืองด้านบนแต่ผ่านไม่ได้ เค้าจะให้เราหาหินไว้ทุบกำแพงเพื่อผ่าน ให้เราไปทำลายไหที่อยู่ข้างๆตรงนี้แล้วเราจะได้หินเอากลับมาให้ผู้ชายคนนี้ คุยแล้วเค้าจะทุบกำแพงทำให้ผ่านไปได้
เมื่อเข้ามาที่เมืองด้านบนแล้วเราจะเห็นร้านของเดคอยู่ด้านบนหลังขวาล่าง แต่เราเดินขึ้นบันไดไปตรงๆไม่ได้ ให้ไปบ้านที่อยู่ติดๆกับโบสถ์ เดินอ้อมไปหลังบ้าน (ในบ้านหลังนี้เข้าไปเปิดตู้จะมีประดับสำหรับผู้หญิงใส่ด้วยนะ)
ให้กระโดดขึ้นไปบนหลังคา เดินไต่ลวดข้ามไปทางโบสถ์ แล้วจากโบสถ์ไต่ลวดข้ามไปอีกฝั่งแล้วเข้าบ้านหลังขวาล่าง จะเป็นร้านของเดค เข้าคัทซีน โดยคามิวจะถามหาออป ซึ่งเดคตอบไปว่าเอาออปให้พระราชาแลกกับเงินไปเรียบร้อยแล้ว แล้วเดคจะบอกให้เราออกไปหน้าร้านกับเค้า (ชั้น 2 ของร้านมีเหรียญเล็กอยู่ด้วยนะ ลองทุบไหดู) คุยกับเดคที่หน้าร้าน เดคบอกแอบให้คนตามไปหาดูว่าออปใครเอาไป ซึ่งเกรคเป็นคนเอาออปไปที่วิหารทางใต้ของเดลคาดาล ซึ่งเป็นทางเดียวกับหมู่บ้านอิชิของผู้กล้าของเรานั่นเอง
หลังจากนั้นให้ออกมานอกเมือง โดยออกมาจากเมืองด้านล่าง วิ่งไปที่โบสถ์จะเจอผู้หญิงยืนอยู๋ใต้ต้นไม้ คุยแล้วเราจะได้ Quest
Quest No.4 のススメให้ใช้ท่าประสานกับคามิวชื่อ シャドウアタック โดยต้องอยู่ในสภาวะ zone ก่อน ใช้เสร็จแล้วก็กลับมาคุยเพื่อจบเควส
เป้าหมายต่อไปเราจะไปที่ป่า นาบุกาน่า ナプガーナ密林 ที่อยู่ด้านล่างของ map เพื่อทะลุผ่านไปยังหมู่บ้านอิชิของผู้กล้า
เมื่อเข้าป่ามาแล้วจะเจอพ่อค้าขายอาวุธ ไม่ต้องซื้อหรอก ไร้สาระ เดี๋ยวคราฟเอาได้ ให้วิ่งไปที่แคมป์ไฟในป่าเลย เมื่อถึงแล้วเกมจะสอนระบบคราฟของให้เรา เสร็จแล้วเข้าไปเปิดหีบในบ้านจะได้ Recipe สำหรับสร้างเกราะกับโล่ใหม่ ออกจากบ้านมาเดินไปที่สะพานจะพบว่ามันพังอยู่ ข้ามไปไม่ได้ จากนั้นให้ไปตรงมาร์คชมพูที่อยู่ด้านขวาแคมป์ไฟจะเจอต้นไม้เล็กๆ สำรวจแล้วเราจะเห็นภาพในอดีตเป็นเดวิลขี้แกล้งทำลายสะพาน พร้อมสาปให้ลุงกลายเป็นหมาอีกต่างหาก จากนั้นให้เปิดแผนที่ดู จะเป็นมาร์คชมพูอยู่ด้านซ้าย ไปเปิดหีบตรงแล้วแล้วจะเจอเดวิลขี้แกล้ง กำจัดแล้วคำสาปของลุงจะถูกถอนออก แล้วลุงจะซ่อมสะพานกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
บนทุ่งหญ้ารกร้าง
ข้ามสะพานจนออกไปอีกแมพนึง จะกลับมาที่หน้าหมู่บ้านอิชิ ให้ลงไปด้านล่างของแผนที่จะเข้าหมู๋บ้านอิชิ イシの村 เมื่อเข้าหมู่บ้านมาแล้ว บรรยากาศสงบสุขอย่างมาก ให้กลับไปที่บ้านตัวเองแล้วจะพบว่า ป้าเพลร่าจำเราไม่ได้ เราจะอธิบายให้ฟัง แต่เพลร่าบอกว่าลูกเค้าพึ่งอายุ 6 ขวบเท่านั้น แล้วไล่เราออกมาจากบ้าน ออกมานอกบ้านจะเห็นเด็กคนนึงร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ วิ่งไปหาเราจะรู้ว่านั่นคือเอม่าในวัยเด็กนั่นเอง เมื่อเอม่าถามว่าเราเป็นใคร เราก็บอกให้ฟัง แล้วเอม่าจะเข้าใจว่า เรากำลังตามหาผู้กล้าในวัยเด็ก แล้วเอม่าจะพาไป ให้เราวิ่งตามเอม่าไป แล้วเราจะพบกับลุงเทโอพร้อมตัวเราในวัยเด็ก แต่เหมือนลุงเทโอจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเราที่มาจากอนาคต หลังจากคุยสารทุกข์สุขดิบแล้ว ลุงเทโอจะเผยอดีตให้เราฟัง แต่เนื่องจากไม่มีเวลา ลุงเลยบอกให้เราไปที่ทางตะวันออกของหมู่บ้าน ไปที่น้ำตกอิชิจะมีหินสามเหลี่ยมอยู่แล้วเราจะเข้าใจเอง ให้วิ่งกลับเข้าไปในหมู่บ้านพบคัทซีน แล้วเราจะกลับมาที่ปัจจุบันพร้อมซากความเสียหายทั้งหมู่บ้าน จากนั้นให้ออกจากหมู่บ้านด้านบนแล้วไปอีกแมพนึงทางตะวันออกของหมู่บ้าน
เมื่อเข้ามาแล้ว กดดูแผนที่จะเห็นชื่อน้ำตกบนแผนที่ชื่อ イシの大滝 เมื่อไปบริเวณนั้นเราจะเห็นเครื่องหมาย ! โผล่ขึ้นมาเอง แล้วเราจะขุดกล่องเก็บของขึ้นมาใบนึงพบจดหมาย ใจความประมาณว่า (อาจจะไม่ถูกต้อง 100% แต่ก็ใกล้เคียง เพราะภาษาโบราณมากไม่ค่อยเจอ ใครแปลออกเป๊ะๆแนะนำมาได้)
“ตอนที่เราเกิดออกมา ที่บ้านเกิดยูกุโนอา ユグノア ก็ถูกโจมตีเมื่อเราโตขึ้นให้ลองไปขอความช่วยเหลือผู้เป็นมิตรประเทศอย่างราชาแห่งเดลคาดาลดู และเราคือองค์ชายของยุกุโนอา มีชะตากรรมของผู้กล้าที่ต้องแบกเอาไว้ และผู้กล้าคือผู้ที่ขับไล่ความมืด เมื่อถึงเวลาเราจะเข้าใจประโยคนี้ ขอโทษที่ไม่สามารถร่วมเดินทางไปด้วยได้ เพราะความไร้พลังของแม่ ยกโทษให้ด้วย”
หลังจากอ่านจดหมายของแม่เสร็จ ก็พบว่ามีอีกฉบับนึงของลุง ใจความประมาณว่า (อาจจะไม่ถูกต้อง 100% แต่ก็ใกล้เคียง เพราะภาษาโบราณมากไม่ค่อยเจอ ใครแปลออกเป๊ะๆแนะนำมาได้)
”หลังจากที่พบตัวเราในอนาคตแล้ว ตามสัญญาที่ได้บอกสถานที่ไปก็เลยเอาจดหมายมาฝัง ได้อ่านจดหมายของแม่หรือยัง จดหมายนั้นมันอยู่กับเจ้าตอนที่ลอยมากับน้ำ ฉันได้อ่านจดหมายแล้ว เจ้าได้พบกับราชาเดลคาดาลแล้ว รู้สึกเจ็บปวดใช่มั้ย ทำไมยุกุโนอาถึงโดนโจมตี ทำไมผู้กล้าถึงถูกเรียกว่าเด็กปีศาจ ถ้าอย่างงั้น ฉันเลยออกไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง ที่ทางตะวันออกมีประตูศาลเจ้าที่เปิดอยู่ หินเวทย์มนต์นี้ของมอบให้เจ้า จงใช้มันเพื่อค้นหาความจริงของโลก ว่าทำไมผู้กล้าถึงเป็นเด็กปีศาจที่ถูกไล่ล่า แล้วความจริงทั้งหมดก็… ผู้กล้าเอ๋ย จงอย่างเสียใจ ฉันมีความสุขมากที่ได้เป็นปู่ของเจ้า”
แล้วคามิวจะบอกว่า ประตูศาลเจ้าที่เปิดออก ทางตะวันออก ดูเหมือนว่าเราจะต้องใช้เรือ ให้ไปตามที่ปู่นายบอกเถอะ แต่ก่อนหน้านั้นต้องไปเอา เรดออป ที่ วิหารเดลคาดาล ก่อน จากนั้นให้เรามุ่งหน้าไปที่วิหารเดลคาดาลที่อยู่ตรงกลางล่างของแผนที่(ก่อนแคมป์ไฟ)
เมื่อมาถึงวิหารแล้วจะพบว่าทหารที่เข้ามาก่อนหน้านี้โดนจัดการเรียบ ให้เราเดินลงไปชั้นล่าง ลองดูแผนที่จะเห็นทางออกไปข้างนอกทั้งซ้าย ขวา และทางลงบันไดไปชั้นล่าง แนะนำแค่ให้ออกไปเก็บหีบด้านขวาพอ เพราะด้านซ้ายไม่มีอะไร แล้วเดินลงบันไดชั้นล่างได้เลย
ลงมาด้านล่างแล้ว หน้าห้องบอสจะเจอมอนสเตอร์ที่มีแสงวิบวับ แล้วจะเข้า Tutorial สอนว่า ตัวแบบนี้ให้จัดการมันแล้วจะขึ้นไปขี่มันได้ ให้จัดการมันแล้วกระโดดขึ้นไปเก็บหีบด้านบนทั้ง 2 อัน เป็นเมล็ดเพิ่มพลังป้องกันกับ Recipe ทำหมวก เสร็จแล้วเข้าไปด้านในสุดจะพบเรดออปที่คามิวตามหา พร้อมมอนสเตอร์ 2 ตัว อีวิลบีส จัดการมันแล้วเราจะได้เรดออปคืน คามิวจะบอกว่าหมดเรื่องที่ต้องทำแล้ว ไปตามที่ปู่นายบอกโลด เสร็จแล้วออกมาข้างนอก ไปที่แมพด้านขวาสุดได้เลย
เมื่อมาถึงแมพด้านขวาแล้ว เราจะถูกเกรคไล่ล่า พร้อมหินเวทย์มนต์ที่ปู่ให้เปล่งแสง และประตูก็จะเปิดออก เราจะวาร์ปมาอีกที่นึง พร้อมถ้วย
荒野に立つเหล่าบรรดาผู้ชี้นำ
ต่อไปให้เราไปที่หมู่บ้าน โฮมุระ ホムラの里 ที่อยู่ตรงกลางแผนที่ เมื่อเข้ามาแล้ว เราจะได้เป็นผู้โชคดีคนที่ 100 ได้ใช้บริการอ่างอาบน้ำฟรี ให้เราวิ่งไปโรงอาบน้ำด้านขวาบน ระหว่างทางจะมีคัทซีนเด็กผู้หญิงคนนึงจะคุยกับมาสเตอร์ร้านเหล้า แต่โดนคนเฝ้าประตูห้ามไม่ให้เข้าเพราะเห็นเป็นเด็ก ไม่สมควรเข้าร้าน แล้วก็หันมาทักทายเรานิดหน่อย จบคัทซีนเดินไปโรงอาบน้ำด้านขวาบนเลย เข้าไปคุยกับคนที่เค้าเตอร์แล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำผู้ชายจะเจอคามิวที่เข้ามาอยู่ก่อนแล้ว เราจะคุยกันเรื่องเด็กผู้หญิงที่เราเจอหน้าร้านเหล้ากำลังตามหาน้องสาว ซักพักจะมีเด็กผู้หญิงอีกคนเดินร้องไห้เข้ามา เราจะเข้าใจว่าเด็กที่เจอหน้าร้านเหล้าคือพี่สาว แล้วเธอจะบอกว่าชื่อ รูโกะ ให้เราเดินไปที่หน้าประตุเมืองจะเจอกับเด็กผู้หญิงคนนั้น คุยซักพักจะรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่น้องสาวที่เธอตามหา แต่รูโกะตามหาพ่ออยู่ ส่วนเด็กผู้หญิงอีกคนจะขอร้องให้เราช่วยพาไปหามาสเตอร์ร้านเหล้าหน่อย แล้วเธอจะแนะนำตัวว่าเธอชื่อ เวโรนิก้า
คุยจบแล้วไปที่ร้านเหล้า คุยกับมาสเตอร์แล้วเวโรนิก้าจะถามถึงน้องสาว มาสเตอร์บอกว่า เซเนียไปทางตะวันตก เพราะรู้สึกเหมือนจะได้เจอพี่สาวที่นั่น แล้วเราจะฝากรูก้าไว้ที่ร้าน จากนั้นเดินไปรับเควสด้านหลังร้านเหล้า
Quest No.6 鍛冶職人の親心โดยเค้าจะให้สร้างแหวนทอง きんのゆびわ+1 (ย้ำด้วยนะว่าต้อง +1ขึ้นไป) รับเควสเสร็จแล้ว เปิดหีบข้างๆคนรับเควสด้วย เป็นวัตถุดิบสำหร้บสร้างแหวน แล้วไปหาแคมป์ไฟ คราฟแหวนเอา (ถ้ากลัวพลาดก็เซฟก่อนคราฟละกัน) เสร็จเอาเอากลับมาส่ง
เสร็จแล้วไปรับเควสทางซ้าย
บ้านหลังทางซ้าย(แถวล่าง) ด้านหลังมีหีบเปิดแล้วจะได้เหรียญเล็ก ส่วนด้านหลังโรงแรมจะมีหีบ เปิดแล้วจะได้ Recipe
ออกจากเมืองมาไปถ้ำทางซ้ายบนของแผนที่ เมื่อเข้ามาแล้ว สำหรับคนงกของ ลองสังเกตดูทางซ้าย จะมีทางให้ลงไปชั้นล่างอยู่ 2 จุด มีหีบให้เก็บรวมถึงเกราะต่างๆด้วย ด้านขวาบนมีเหรียญเล็ก จุดหมายในดันเจี้ยนนี้คือจุดเซฟ ที่นั่นเราจะได้พบกับ เซเนีย น้องของเวโรนิก้ามาแอบหลับอยู่นั่นเอง แล้วเราจะได้รู้ว่าทั้งเซเนียและเวโรนิก้าเป็นฝาแฝดกัน ส่วนเวโรนิก้าที่กลายเป็นเด็กเพราะถูกปีศาจลักพาตัวดูดพลังเวทย์กับอายุไป แต่เวโรนิก้าหนีออกไปได้ ถึงตัวจะเป็นเด็กแต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเค้าคือ..
หลังจากคุยกันเสร็จแล้วเข้าไปด้านในจะเจอต้นไม้เล็กๆอีกแล้ว สำรวจแล้วเราจะเห็นอดีตคือพาสเวิร์ดสำหรับผ่านประตูนั่นเอง เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับ เดนด้า ปีศาจที่ลักพาตัวผู้คนมาดูดพลังนั่นเอง หลังจากชนะได้แล้ว เวโรนิก้าจะได้พลังเวทย์กลับคืนมา (แต่ไม่กลับร่างเดิม) พร้อมแนะนำตัวว่า เค้ามาจากตระกูลของแรมด้า มีชะตาที่ต้องปกป้องและช่วยเหลือผู้กล้านั่นเอง และเค้าจะร่วมเดินทางไปกับเราด้วย หลังจบคัทซีนจะได้ถ้วย
導かれし者たち เสร็จแล้วเดินเข้าไปด้านใน ไปช่วยชายคนนึงออกมาจากคุก ซึ่งชายคนนั้นรูปัสคือพ่อของรูโกะนั่นเอง จากนั้นเราจะวาร์ปกลับมาที่โรงแรม เดินลงไปชั้นล่างจะเจอพรรคพวกรออยู่แล้ว ใจความประมาณว่า ผู้กล้าจะถูกส่งมาเกิดเพื่อปราบจอมราชาปีศาจ แต่จอมราชาปีศาจถูกปราบไปแล้ว ทำไมถึงมีผู้กล้าปรากฏตัวมาอีก เรื่องนี้ต้องไปหาคำตอบที่ต้นไม้แห่งชีวิต แต่ต้นไม้นั่นมันลอยอยู่บนฟ้า แล้วคามิวก็บอกว่าลุงรูปัสที่ช่วยมาเมื่อวานเป็นคนดังด้านข้อมูล ถ้าลองไปถามดูอาจจะรู้อะไรบ้างก็ได้ คุยจบให้เราไปที่ร้านเหล้าแล้วรุปัสจะเล่าให้ฟังว่าช่วงที่เกือบตายอยู่ทะเลทราย ได้ทหารของซามาดี้มาช่วยชีวิตไว้ พอเค้าฟื้นที่ปราสาทเค้าก็เห็นกิ่งไม้ที่มี 7 สี เปล่งประกายอยู่ นั่นคือกิ่งของต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งเวโรนิก้าบอกว่าการที่มันเปล่งแสงอยู่มันจะช่วยนำทางให้ผู้กล้านั่นเอง ดังนั้นจุดหมายต่อไปเราคือประเทศซามาดี้ แล้วเวโรนิก้ากับเซเนียจะเข้าปาร์ตี้เราอย่างเป็นทางการNice Run !
เดินออกไปหน้าเมือง แล้วเวโรนิก้าจะสอนเวทย์ลูล่าให้เรา เอาไว้วาร์ปตามเมืองหรือจุดแคมป์ได้ ต่อไปให้เราไปที่ประเทศซามาดี้ ซึ่งอยู่ทางซ้ายของแผนที่ เมื่อเข้ามาที่เขตของซามาดี้แล้ว จะเห็นประเทศซามาดี้อยู๋ตรงกลางแผนที่เลย
เมื่อเข้ามาแล้วเมืองนี้จะอยู่ในช่วงเทศกาลแข่งม้า ให้เราไปรับเควสก่อนเลย
สำหรับ Quest No.7 ที่อยู่ทางซ้ายบนตอนนี้รับไปก็ยังทำไม่ได้ ขอข้ามไปก่อน ให้เราเดินเข้าไปในวังเพื่อคุยกับราชาเลย เมื่อเข้ามาแล้วราชาจะยุ่งๆจนไม่ได้คุยกับเรา แต่เจ้าชายฟาริสจะเรียกเราไปพบแทน ให้ไปหาเจ้าชายที่ห้องทางขวาบนที่ชั้นล่าง แล้วเจ้าชายจะนัดเราออกไปตอนกลางคืนที่เซอคัส ให้เราออกไปที่เซอร์คัส(ด้านขวาของปราสาท) ตอนกลางคืนด้วยนะ แล้วจะเจอเจ้าชายยืนอยู่หน้าทางเข้า คุยแล้วเจ้าชายจะขอร้องให้สลับตัวเรากับเจ้าชายไปแข่งม้าเนื่องจากเจ้าชายขี่ม้าไม่เป็น โดยแลกกับกิ่งไม้สีรุ้ง เราก็ตอบข้อแรกตกลงไป เช้าวันต่อมา(ถ้าอยากแข่งม้าได้ที่ 1 ก็เซฟไว้ก่อน) ให้ไปที่สนามแข่งม้าทางซ้าย (ตรงจุดสีชมพูดทางซ้ายนั่นแหละ) คุยกับทหารหน้าประตู แล้วเค้าจะให้เราเข้าไปหาเจ้าชาย แล้วเราจะสลับตัวกับเจ้าชาย ออกมาด้านนอก ขี่ม้าตรงเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้าย (ประตูเขียวๆด้านบนของแผนที่) จะเป็นการแข่งม้าและเข้าสู่ Tutorial วิธีเล่นคือ กด R2 เป็นการ dash เข้าจุดเขียวๆเพื่อเพิ่ม stamina ส่วน
กดเพื่อดริฟม้าสำหรับเข้าโค้ง (แข่งแพ้ก็ไม่เป็นไร) เมื่อแข่งจบแล้วจะเข้าคัทซีน แล้วซิลเวียจะเข้ามาเห็นพอดี (ความแตกซะแล้ว) พร้อมถ้วย ナイスラン!สู่ดินแดนใหม่
หลังจากจบคัทซีนแล้วให้เราไปหาพระราชาในปราสาท แล้วเจ้าชายจะแนะนำเราให้กับราชา พร้อมพูดเรื่องกิ่งไม้สีรุ้ง แต่ก็โดนขัดจังหวะด้วยการมีทหารมาบอกว่ามี ซาโซริ มาโจมตีที่เขตบาคุราบะ จากนั้นให้ไปหาเจ้าชายที่ห้องเหมือนเดิม แล้วเจ้าชายจะขอให้เราช่วยจัดการซาโซริอีกครั้ง ครั้งนี้จะสามารถทำ Quest No.7 ได้แล้ว ใครยังไม่ได้ให้รับมาเลย ออกจากเมืองไปจัดการซาโซริ โดยซิลเวียจะขอเข้าร่วมด้วย ให้ไปหาซาโซริที่อยู่ที่ทางออกด้านบนแผนที่ ระหว่างทางตรงแคมป์ไฟ จะมีคัทซีนด้วย หลังจากจัดการแมงป่องซาโซริได้แล้ว ก็ได้เวลาทำเควส
จากนั้นกลับมาที่เมือง ซาโซริจะหลุด เจ้าชายกลัวจนตัวสั่น แต่ซิลเวียช่วยพูดจนเจ้าชายกล้าเผชิญหน้ากับซาโซริ ที่ปราสาทเจ้าชายจะสารภาพเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ที่สลับตัวตอนแข่งม้า แล้วเจ้าชายจะขอกิ่งไม้สีรุ้งกับพระราชาให้ แต่พระราชาบอกได้ขายมันไปแล้ว พระราชาบอกให้ลองไปหาที่ดาฮาลเน่ที่ทางตะวันตกดู ส่วนเจ้าชายจะขอโทษที่ไม่มีกิ่งไม้สีรุ้งให้เรา เลยมอบ bow gun มาให้แทน จากนั้นเดินไปหน้าประตูเมือง ซิลเวีย จะมาร่วมเดินทางด้วย โดยให้เหตุผลว่าความฝันของเค้าต้องการทำให้ผู้คนมีความสุข แต่ถ้าจอมมารทำให้ผู้คนต้องทุกข์ทรมานก็เป็นเหตุผลที่เค้าควรจะร่วมเดินทางด้วย หลังจากร่วมเดินทางแล้วเกมจะเข้าสู่ Tutorial สอนวิธีเปลี่ยนพวกลงปาร์ตี้ โดยไปที่คำสั่ง さくせん แล้วเลือก いれかえ เพื่อเปลี่ยน สามารถเปลี่ยนได้ในหน้าเมนูและระหว่างต่อสู้(แต่จะเสียเทิร์นนั้นๆไป 1 เทิร์น)
เป้าหมายต่อไป ขึ้นไปด้านบนของแผนที่ ไปที่เมืองดาฮาลเน่ ตรงประตูก่อนจะเปลี่ยนแมพจะเจอทหารที่ให้เควส ให้รับมาทิ้งไว้ก่อน วิ่งต่อไปอีกแมพ จะเห็นมีเมืองดาฮาลเน่อยู่เมืองเดียว ในแมพนี้พื้นที่ที่เป็นน้ำ ถ้าจะไปเก็บของให้หาผึ้งขี่เอา
เมื่อเข้ามาในเมืองแล้วจะมีเทศกาลประกวดชายงาม แน่นอนว่าเราไม่ได้สนใจ ซิลเวียจะบอกว่าเรือของเค้าจอดไว้ที่ท่าเรือทางตะวันตกเฉียงใต้ แล้วเราจะสังเกตุเห็นเด็กคนนึงแอบดูเราอยู่ ต่อไป ไปส่งเควสก่อน
Quest No.9 明日への手紙รับจากทหารยามที่เฝ้าประตูระหว่างทางที่มาดาฮาลเน่ เค้าจะให้ส่งจดหมายให้น้องสาวชื่อเดียอาน่าในเมืองดาฮาลเน่ เมื่อเราถึงแล้ว ให้มาตามตำแหน่งดังรูปบริเวณขวาบน(ดู Minimap เอานะ)
เสร็จแล้วเดียอาน่าจะให้ส่งจดหมายกลับไปบอกพี่ชาย ให้วาร์ปกลับไปที่แคมป์ไฟที่ใกล้สุด ダーハラ湿原(キャンプ) เข้าไปคุยกับทหารที่เฝ้าประตูอีกรอบก็จะจบเควส
ต่อไปท่าเรือทางด้านซ้ายล่างของเมืองเพื่อออกเรือ แต่ออกไม่ได้เพราะมีประกวดคอนเทสชายงาม ซึ่งถ้าจะเปิดท่าเรือ ต้องไปขอผู้ว่าของเมือง
ให้เราไปหาผู้ว่าด้านขวาบนของเมือง บ้านที่อยู่ตรงเควสส่งจดหมายให้เดียอาน่านั่นแหละ
แต่พอผู้ว่าเห็นหน้าเราแล้วก็ปิดประตูใส่หน้าเราทันที หลังจากนั้นเซเนียจะมาหาเราว่าเวโรนิก้ามีเรื่องแล้ว พอไปถึงเราจะเห็นเด็กที่เคยแอบดูเราขโมยคฑาของเวโรนิก้าไป ซึ่งเค้าจะบอกว่าชื่อ รัด แล้วจะบอกเหตุผลที่ทำว่า เพื่อนเค้าชื่อ ยาฮิมุ อยู่ๆวันนึงก็เสียงหายไปดื้อๆ ซึ่งยาฮิมุเป็นลุกชายของผู้ว่าเมืองนี้นี่แหละ ถ้าหากได้ใช้เวทย์จากคฑาเชื่อว่าจะรักษาเสียงให้หายได้ แล้วเซเนียจะตรวจดูพบว่าโดนคำสาป ต้องใช้น้ำบริสุทธิ์จะช่วยรักษาได้ ซึ่งรัดบอกว่าที่ทางตะวันตกของเมืองจะมีถ้ำอยู่ ด้านในสุดจะมีน้ำบริสุทธิ์อยู่ หลังจบอีเว้นท์แล้ว อย่าไปลืมไปรับเควสจากเดียอาน่าคนเดิม ที่เราเอาจดหมายพี่ชายมาส่งให้นั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ ให้รับทิ้งไว้ก่อน
ออกมานอกเมืองดูแผนที่ ด้านซ้ายสุดจะมีถ้ำอยู่ ไปตรงนั้นแหละ เมื่อเข้าถ้ำมาแล้ว ด้านบนสุดเยื้องๆทางขวาตรงนั้นแหละคือเป้าหมายของเรา จะมีมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆขวางทางไว้ด้วย
ชนะแล้วเข้าไปเก็บน้ำบริสุทธิ์แล้วอ้อมมาทางขวาลงมาเพื่อเก็บของระหว่างทางด้วย แล้วใช้รูล่ากลับเมืองเลย
เมื่อกลับเมืองมาแล้ว งานประกวดชายงามจะเริ่มขึ้นแล้ว เราวิ่งตรงขึ้นไปด้านบนสุดเลย แล้วเราจะพบกับ โฮเมรอส ทหารจากเดลคาดาล มาตามจับพวกเรา เราจะได้สู้กับทหาร เสร็จแล้วคามิวจะเสียสละตัวเองโดนจับเพื่อให้เราหนีรอดไปได้ ซึ่งเราก็วางแผนจะไปช่วยคามิวกันตอนกลางคืน ตอนนี้ในเมืองจะมีศัตรูเป็นทหารเต็มไปหมด ซึ่งเราจะต้องไปมองหาคามิวจากบนสะพานที่อยู่กลางเมือง หลังจบอีเว้นท์แล้ว ให้สำรวจตรงสะพานเพื่อกระโดดลงมาด้านล่าง ให้เราวิ่งขึ้นเรือ แล้วพายเรือไปจอดตรงด้านซ้ายบนของเมือง แล้ววิ่งไปตรงเวทีประกวดด้านบนสุด พบบอส โฮเมรอส ชนะแล้ว เราจะหนีขึ้นเรือไป แต่ก็ถูกคราก้อนมาขวาง แต่แล้วผู้ว่าของเมืองก็มาช่วย โดยผู้ว่าจะกล่าวขอบคุณที่เราช่วยแก้คำสาปให้ลูกชายของเขา แล้วยาฮิมุจะเล่าว่า เค้าเห็นโฮเมรอสอยู่กับพวกปีศาจ เลยตกใจเผลอส่งเสียงออกมา แล้วโฮเมรอสก็จัดการทำให้เสียงหายไป ส่วนผู้ว่าเข้าใจว่าการที่ลูกชายเสียงหายไปเป็นผลมาจากเด็กปีศาจหรือผู้กล้าแห่งหายนะนั่นเอง และได้เตือนว่าเดลคาดาลกับปีศาจต้องมีการติดต่ออะไรก
หลังจากจบคัทซีน เราจะออกสู่โลกกว้างเป็นครั้งแรก พร้อมถ้วย
新天地へ ซึ่งไอที่เราเล่นมามันเล็กนิดเดียวเอง ต่อจากนี้เราจะไปทำอะไรนอกเนื้อเรื่องกันก่อน ใครจะข้ามก็ได้-เกาะเล็กๆที่อยู่เยื้องๆเราไปทางขวา แวะไปเก็บ Recipe ได้ มันจะอยู่ตรงกลมๆด้านล่างของเกาะ ส่วนประตูล๊อคยังไขไม่ได้ในตอนนี้
-เมืองโซลดิโก้ ที่อยู่ด้านบนของเมืองท่าดาฮาลเน่ แวะไปส่งเควสที่รับมาจากเดียอาน่าก่อนก็ได้ หรือจะมาส่งทีหลังก็ได้ เพราะต้องมาเมืองนี้ในภายหลังอยู่แล้ว (ถือว่าแวะมาเอาวาร์ป จะได้ไม่ต้องขับเรือกลับมาไกล)
-ที่เมืองโซลดิโก้นั่นแหละ ถ้าแวะเล่นคาสิโนที่เมืองนี้ ลองโยกสล๊อตหรือเล่นไพ่ให้ได้เหรียญจำนวนนึงแล้วแลกอาวุธที่เค้าเตอร์ด้านซ้ายของประตูดู พลังโจมตีอาวุธจะสูงมาก จนเราไม่จำเป็นต้องซื้ออาวุธไปพักใหญ่ ทำให้การเล่นสบายเป็นอย่างมาก (แต่ถ้าขี้เกียจก็ผ่านไปเลยได้) ถ้าใครเล่นดาบโล่ ก็เล่นแค่ 5หมื่นเหรียญ แต่ถ้าใครเล่นดาบ 2 มือ ก็ แสนเหรียญ
**ที่เมืองโซลดิโก้จะมีอยู่ 2 เควส ไว้ถึงเนื้อเรื่องตรงนี้แล้วค่อยมารับแล้วทำ ตอนนี้ขอผ่านไปก่อน
วีรบุรุษแห่งคล๊อตต้า
กลับมาเนื้อเรื่องหลักต่อ ออกทะเลได้ ไปทางขวาบนเราจะเห็นเครื่องหมายตกใจบนแผนที่ แล่นเรือไปตรงนั้นโลด เมื่อมาถึงแล้ว ตรงนี้จะมีเควสให้ทำอยู่อันนึง (ชั้น 2 ตรงระเบียงของโรงแรมมีเหรียญเล็กให้เก็บด้วยนะ)
ส่งเควสแล้ว หมดธุระที่นี่แล้ว เดินทางขึ้นบนต่อเลย เข้ามาแล้วไปหมู่บ้านคล๊อตต้าที่อยู่ด้านบน เราจะพบว่ามีงานประลองหน้ากากที่นั่น ให้เราวิ่งตรงขึ้นไปด้านบนเราจะพบว่าของรางวัลเป็น กิ่งไม้สีรุ้ง ที่เราตามหา ส่วนอีกอันเป็นเยลโล่ออร์ป ให้เราเข้าไปคุยกับคนที่หน้าเค้าเตอร์ ตอบข้อแรกไปเพื่อลงทะเบียนเข้าแข่งขัน เสร็จแล้ววิ่งไปทางขวาเพื่อขึ้นลิฟท์ ออกลิฟท์มาเลี้ยวซ้ายขึ้นบันไดเข้าสนามประลอง ซึ่งการจับคู่ประลอง เราจะได้คู่กับ ฮันฟรี ซึ่งเป็นแชมป์ประลองรอบก่อน จบคัทซีนแล้ว กลับลงลิฟท์มาหน้าหน้าลานประลองพบอีกคัทซีน เสร็จแล้วไปนอนคืนนึง
ตื่นมาวิ่งไปตรงลานประลองคุยกับฮันฟรีจะเริ่มประลองรอบที่ 1 จบแล้วคัทซีนไปยาวๆ แล้วไปหาฮันฟรีที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า (โบสถ์จุดเซฟนั่นแหละ ทางลงอยู่ขวาล่างนะ) โดยฮันฟรีจะเล่าว่าเค้าจำเป็นต้องชนะการประลองไปเรื่อยๆ เพื่อเอาเงินรางวัลมาเปย์ให้เหล่าเด็กๆกำพร้าพวกนี้ ระหว่างคุยจะได้ยินเสียงรื้อข้าวของในห้องฮันฟรี ให้เราวิ่งขึ้นบันไดไปด้านบน ถ้าดูจากแผนที่ ห้องฮันฟรีจะอยู่ด้านขวาล่าง ไม่ต้องรีบเข้า เข้าห้องที่ติดกับห้องฮันฟรีก่อน ไปสำรวจสมุดแดงที่ตู้ จะได้ Recipe มาอันนึง จากนั้นก็วิ่งเข้าห้องฮันฟรีเลย จะพบข้าวของโดนรื้อค้นกระจัดกระจาย แล้วเราจะได้พักผ่อน 1 คืน
ตื่นมาคุยกับฮันฟรีจบ วิ่งไปคุยกับฮันฟรีตรงทางขึ้นลานประลองได้เลย แล้วเราจะได้ประลองคู่ที่ 2 3 และ 4 ติดกันยาวๆเลย หลังจากคู่ที่ 4 จบ มัลทีน่าจะสังเกตุเห็นรอยสัญลักษณ์ผู้กล้าจนชะงักไป พอชนะแล้วฮันฟรีจะล้มลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจบคัทซีนแล้วไปนอนอีกคืนนึง แล้วโรว์จะมาเคาะประตูเรียกเรา โดยบอกว่าคู่หูของเขา องค์หญิงมัลทีน่าหายตัวไป อยากให้เราช่วยตามหาหน่อย โดยโรว์จะบอกว่า องค์หญิงมัลทีน่าหายตัวไปแถวๆสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของฮันฟรี ให้เรามุ่งหน้าไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ววิ่งลงไปชั้นล่าง เราจะเห็นกำแพงมีรอยแตก วิ่งเข้าไปโลดจะเป็นถ้ำใต้เมืองคล๊อตต้า
ในดันเจี้ยนนี้จะมีพวกเมล็ดเพิ่มสกิลกับเหรียญเล็กด้วย พยายามสำรวจให้ทั่วเอาเองนะ จุดหมายเราคือด้านในสุดของถ้ำทางซ้ายล่าง เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับฮันฟรีที่จับตัวองค์หญิงมัลทีน่า และคนอื่นๆอีกเพียบโดยมีปีศาจ อารัคราโทร (ชื่อเรียกยากวุ้ย) เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แล้วจะพบว่ามัลทีน่าแกล้งโดนจับมา แล้วเราจะตามมาสมทบ โดยโรว์จะบอกว่าคนที่แอบบุกรุกห้องฮันฟรีคือเค้าเอง โดยโรว์สงสัยสิ่งที่เค้าดิื่มตอนแข่งขันคือสารสกัดที่บีบมาจากเหล่านักสู้ (ที่ถูกห้อยบนเพดาน) อารัคราโทรเล่าว่า 16ปี ก่อน โดนเกรกฟันหน้าแหกมา จะรักษาแผลต้องใช้สารสกัดพวกนี้ เลยได้หลอกใช้ฮันฟรี ถ้าได้สกัดสารจากคนแข็งแกร่งแล้วละก็ แผลของอารัคราโทรจะหาย แต่ถ้ามนุษย์ดื่มเข้าไป จะแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ซึ่งเหตุผลของฮันฟรีที่ยอมให้หลอกใช้คือ ต้องการชนะเพื่อเอาเงินมาเปย์เด็กกำพร้า แต่แล้วฮันฟรีก็ล้มลง โรว์ได้บอกว่าเพราะผลกระทบจากการดื่มสารสกัดมากเกินไป ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แค่ยืนได้ก็ปาฏิหารย์แล้ว จากนั้นพบบอส อารัคราโทร ชนะแล้ว ฮันฟรีจะเล่าถึงเรื่องที่เจอที่นี่ พร้อมกับได้ยินเสียงชักชวนของอารัคราโทร ด้วยความที่อยากได้พลังจึงยอมเป็นเครื่องมือ แต่โรว์จะบอกว่า เค้ารู้จักกับเจ้าเมืองเมืองนี้ จะขอให้ช่วยเหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเอง พร้อมบอกให้กลับตัวเสียใหม่
ตื่นมา ไปคุยกับคนที่เค้าเตอร์ลานประลอง โดยฮันฟรีจะขอท้าเราสู้ตัวๆ เพื่อตัดสินแชมป์ และเอารางวัลไป พอชนะแล้วจะมีคนวิ่งมาบอกว่า ของรางวัลโดนขโมย โดยทิ้งจดหมายไว้ให้ ซึ่งก็คือโรว์นั่นเอง โดยโรว์บอกให้ผู้กล้าไปพบเค้าที่ปราสาทยุคุโนอา พร้อมถ้วย
グロッタの英雄หลังจากจบแล้ว จะมีเควสเด้งมาให้ทำ 2 เควส
Quest No.12 カマで刈り取れ美肌のクスリQuest No.13 幻の闘士はどこに?ส่งเควสครบหมดแล้ว มุ่งหน้าสู่บ้านเกิดของเรา ยุกุโนอา ที่อยู่ด้านซ้ายล่างได้เลย
สู่โลกอันกว้างใหญ่
เมื่อเข้ามายุกุโนอาแล้ว สภาพเมืองพังเละเทะเสียหาย แล้วเราจะเห็นคบเพลิงโดนจุดไว้บนปราสาท แปลว่าโรว์กับมัลทีน่าต้องรอยู่ตรงนั้นแน่ ตามบริเวณบ้านจะมีจุดแสงให้เก็บ ลองเดินๆสำรวจดู เสร็จแล้วไปตรงจุดชมพูในแผนที่ จะเจอสไลม์ตัวนึง มันจะบอกว่าบ่อน้ำนี้เชื่อมไปถึงปราสาท ให้เราปีนลงบ่อน้ำไปแล้วเดินทะลุไปอีกฝั่งเราจะเจอโรว์รออยู่แล้ว โรว์จะให้เราตามไป ไม่ต้องรอมันเดินหรอก ช้า วิ่งไปข้างหน้าโลด เดี๋ยวเกมมันตัดภาพเอง แล้วโรว์จะพาไปที่หลุมฝังของพระราชาและราชินีของยุกุโนอา ซึ่งก็คือพ่อแม่ของผู้กล้านั่นเอง ส่วนโรว์นั้นเป็นพ่อของราชินี ซึ่งก็คือเป็นตาของผู้กล้านั่นเอง โรว์ยังเล่าต่อว่า หลังจากที่ประเทศนี้ถูกทำลาย ราชาเดลคาดาลก็มีท่าทีเปลี่ยนไป แถมยังเรียกผู้กล้าว่าเด็กปีศาจอีกด้วย หลังจากนี้โรว์จะทำพิธีศพให้กับราชาและผู้คนในประเทศให้เราอยู่ทำพิธีกับเค้า
บังคับตัวได้อีกครั้ง อย่าพึ่งรีบตามไป สำรวจแถวนี้ก่อน ด้านล่างของ mini map ที่เป็นติ่งออกมา มีหีบที่เป็น Recipe ให้เก็บอยู่ เสร็จแล้ว 2 ข้างทางก่อนเจอกับโรว์ มีหีบกับถังให้ปาเล่น เก็บแล้วค่อยตามโรว์ไปด้านในสุด (วิ่งนำไปเลย อย่าเสียเวลารอมันเดิน) ด้านในสดพบมัลทีน่าเตรียมของสำหรับทำพิธีศพตามคำขอของโรว์เสร็จสิ้น ส่วนคามิวก็สงสัยว่าทำไมโรว์ถึงเรียกมัลทีน่าว่าองค์หญิง
หลังจากจบพิธีศพ เดินกลับออกมาทางเดิมจะพบมัลทีน่ายืนน้ำตาซึม เพราะคิดถึงเอเรโนอา แม่ของผู้กล้านั่นเอง เธอจะเล่าว่าแม่ของเธอมีร่างกายอ่อนแอ พอเธอเกิดมาแม่ของเธอก็เสียไป แต่ได้เอเลโนอาคอยเป็นแม่เลี้ยงให้ ตอนที่เอเลโนอาตั้งท้องก็รู้สึกดีใจที่จะได้มีพี่น้อง จากนั้นเธอจะสังเกตุเห็นทหารจากเดลคาดาลไล่ตามมา ให้วิ่งกลับไปหาพวกเรา แต่จะเจอเกรคมาขวางซะก่อน ตอนที่ผู้กล้าเสียท่า มัลทีน่าตะโกนให้เกรคหยุด ทำให้เกรคนึกขึ้นได้ว่าเธอคือองค์หญิงมัลทีน่า ก่อนที่เราและมัลทีน่าจะร่วงลงไปด้านล่าง
เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว เดินไปที่ประตู มัลทีน่าจะเดินเข้ามา แล้วเธอจะเล่าเรื่องเมื่อ 16ปีก่อน ว่าเธอคือองค์หญิงแห่งเดลคาดาล แล้วเหตุการณ์ที่เธอเล่าคือช่วง opening เกมนั่นเอง เด็กผู้หญิงที่อยู่กับผู้กล้าก็คือมัลทีน่า ส่วนเหตุการณ์หลังจากที่ลอยผู้กล้าลงน้ำแล้ว โรว์มาเจอกับมัลทีน่าพอดี โรว์ได้พามัลทีน่าไปหาพ่อของเธอ คือราชาแห่งเดลคาดาลนั่นแหละ แต่กลับกลายเป็นว่าราชาได้ตัดสินให้องค์หญิงและผู้กล้าเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนโรว์คิดว่าต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังคอยใช้ประโยชน์จากราชาแน่ เลยได้พามัลทีน่าออกเดินไป หลังจากนั้นฝนจะหยุดตก มัลทีน่าจะชวนเรากลับไปที่ปราสาท
เดินออกมานอกบ้าน ข้างบ้านฝั่งจุดเซฟมีเหรียญเล็กให้เก็บ จากนั้นวิ่งข้ามสะพานไปเจอเกรคขี่ม้ามาขวาง มัลทีน่าจะขอให้เกรคปล่อยไป แต่เกรคเป็นทหารที่จงรักภักดีแล้วยึดหน้าที่เป็นสำคัญจึงไม่อ่อนข้อให้ สุดท้ายก็เจอแผนของมัลทีน่าพาเราหลับหนีมาได้จนถึงปราสาทยุคุโนอาเดินเข้าไปจะเจอพรรคพวกเรารออยู่แล้ว แล้วโรว์จะสงสัยว่าราชาเดลคาดาลต้องมีความเกี่ยวข้องกับปีศาจแน่ๆ ซึ่งมีปีศาจตัวนึงเป็นปีศาจแห่งการทำลายล้างชื่อ อุลโนก้า จากนั้นโรว์จะมอบกิ่งไม้สีรุ้งให้เรา แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วโรว์กับมัลทีน่าจะเข้าปาร์ตี้เราแบบเป็นทางการ จากนั้นเดินออกไปหน้าเมืองเราจะเห็นภาพนิมิต ซึ่งต้องใช้ออปทั้ง 6 ลูกในการเปิดสะพานสายรุ้งเพื่อขึ้นไปยังต้นไม้แห่งชีวิต แน่นอนว่าเรามี เรดออป ของคามิว และ เยลโล่ออป ที่โรว์ได้ขโมยออกมาพร้อมกิ่งไม้สีรุ้ง ซึ่งเราต้องหาอีก 4 ออป โรว์จะบอกว่าที่โซลติโก้จะมีประตูน้ำซึ่งเป็นทางที่สามารถออกไปทะเลข้างนอกได้ โดยโรว์มีคนรู้จักชื่อ จิเอโก้ ที่จะช่วยเปิดประตูน้ำได้ ตอนนี้ถ้าใครเล่นตามบทสรุปมา จะสามารถใช้รูล่าวาร์ปไปที่โซลติโก้ได้เลย
เมื่อมาถึงโซลติโก้แล้ว ซิลเวียจะชิ่งโดยอ้างว่าไปชมดอกไม้ ให้เราไปหาจิเอโก้ที่โซนทางขวาของเมือง บ้านขวาล่าง ซึ่งจิเอโก้จะไม่อยู่ อยู่แต่พ่อบ้าน แต่พ่อบ้านเค้าสามารถเปิดประตูน้ำให้เราได้ ให้เราขึ้นเรือไปรอได้เลย ถึงตรงนี้เราจะแวะทำเควสก่อน
Quest No.15 対決!カンダタ海賊団!Quest No.16 思い出のバニーをもう一度รับเควสกับคนที่อยู่ตรงชายทะเล เค้าจะให้มัลทีน่าแต่งตัวเป็น บันนี่เกิร์ล ซึ่งเราต้องมีของสำหรับคอส 3 อย่างซะก่อน และเมื่อได้ครบหมดแล้ว เอาไปให้มัลทีน่าสวมใส่และคุยกับเค้าอีกครั้ง
1.バニースーツ (บันนี่สูท) อันนี้ต้องตีเอาเท่านั้น โดย Recipe สามารถแลกซื้อได้ในคาสิโน ราคา 500เหรียญ
วัตถุดิบสำหรับตี 2 ชิ้นแรก มีขายที่พ่อค้าในแคมป์นั่นแหละ อันสุดท้ายจะอยู่ตามจุดแสง(ตรงนี้ยังไม่ชัว ไว้เจอแล้วจะมาบอกอีกที)
2.うさみみバンド (หูกระต่าย) มีขายที่เมืองทะเลทรายซาไมดี้ ร้านขายเกราะ
3.あみタイツ (ถุงน่อง) เก็บในตู้ที่เมืองเดลคาดาล บ้านหลังโบสถ์
เมื่อทำเควสครบแล้ว ให้เราออกเรือมา จะเห็นเครื่องหมาย ! สีชมพูบนแผนที่ แล่นเรือเข้าไปโลด แล้วพ่อบ้านจะเปิดประตูน้ำให้เราสามารถแล่นเรือผ่านได้ และพอจบคัทซีนเราจะได้ถ้วย
広い世界へจบ -Part 1-
สะพานแห่งความรัก
แล่นเรือออกมาออกจากช่องแคบ จะเห็นเกาะเล็กๆมีหมอกอยู่ เข้าไปด้านในแล้วเรือจะมาเกยตื้นที่หาดแห่งนึง โดยซิลเวียจะใช้เวลาซักแปปเพื่อเอาเรือกลับลงทะเล ให้เราเดินไปหามัลทีน่า แล้วอยู่ๆจะมีเงือกโผล่ขึ้นมา เธอจะแนะนำตัวว่าชื่อ โรเมีย แล้วเธอจะร้องขอให้เราตามหาคนรักของเธอที่ชื่อ คิไน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน นากิมเนอร์ ซึ่งเธอได้สัญญาจะแต่งงานด้วย แต่ว่าคิไนกลับไม่กลับมาหาเธอ โรเมียเลยได้รอคอยคิไนอยู่ตรงนี้ ถ้าหาเราช่วยตามหา เธอจะพาเราไปที่เมืองบาดาล ซึ่งเราคาดการณ์กันว่าจะมีออปอยู่ที่นั่น จึงได้ตกลงช่วยตามหา โดยโรเมียจะบอกว่า หมู่บ้าน นากิมเนอร์ จะอยู่ทางฝั่งตะวันออก หลังจากรับปากโรเมียแล้ว ตอนนี้จะออกเรือได้แล้ว ในแผนที่เราจะเห็นเครื่องหมาย ! อยู่ตรงมุมขวาล่าง ให้มุ่งหน้าไปโลด ระหว่างทางจะมีเกาะเล็กๆอยู๋ แวะขึ้นเกาะทีนึงเพื่อเอาถ้วยจอดเรือครบทุกที่ด้วย
เมื่อมาถึงแล้ว ถ้าเราไปคุยกับป้าที่มีสัญลักษณ์ชมพู เธอจะบอกว่าให้ไปถามแม่ของคิไนดู ซึ่งเธอจะอยู่ที่โบสถ์ และเป็นคนนอนเร็วมาก เราจะเจอเธอได้ช่วงเวลากลางวันเท่านั้น ใครมาเย็นมาค่ำ ให้ไปนอนเปลี่ยนเวลาซะ แล้วเดินไปที่โบสถ์ จะพบแม่ของคิไนเล่านิทานให้เด็กฟัง (นิทานขอยังไม่แปลนะ) หลังเล่านิทานจบ เธอจะบอกกับเราว่าคิไนออกไปปราบคราก้อน ทางตะวันตก เนื่องจากมันทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ให้เราเซฟเกมให้เรียบร้อย แล้วออกเรือมาจะเห็นสัญลักษณ์ชมพู อยู่ทางซ้าย ให้เราแล่นเรือไปหา แล้วคราก้อนจะปรากฏตัวออกมา ปราบมันแล้วเราจะกลับเข้าไปในหมู่บ้าน เป็นปาร์ตี้ฉลองที่เรากำจัดคราก้อนได้สำเร็จ ให้เดินออกมาจะพบคัทซีนเวโรนิก้าจะมาช่วยเราตามหาคิไน ให้เราเดินไปหาคิไนที่ท่าเรือ แล้วเราจะเล่าเรื่องของโรเมียให้ฟัง
คิไนจะเล่าว่า คนที่เราตามหา คือปู่ของเค้า คิไน ยูกิ เค้าจะถามว่าเรารู้จักนางเงือกต้องสาปหรือไม่ ซึ่งเวโรนิก้าจะบอกว่านั่นคือนิทานที่แม่คิไนแต่งขึ้นมาไม่ใช่หรอ แต่คิไนบอกว่า นั่นคือเรื่องเล่าของปู่เค้าต่างหาก แล้วคิไนจะเล่าเรื่องเมื่อ 50 ปีก่อนให้ฟัง ชาวประมงคนนึงถูกขับไล่ออกจาหมู่บ้านเป็นเวลา 10ปี ภรรยาของปู่ ดานาโทร่า ไปแต่งงานกับผู้ชายอื่น และมีลูกด้วยกัน ทั้งเรื่องเงือกต้องสาป และเรื่องของปู่ ต่างค่อยๆเลือนหายไปจากผู้คน จนกระทั่งวันนึง เรือประมงของหมู่บ้านประสบกับพายุไต้ฝุ่นเข้า เหมือนกับของปู่ แต่แย่กว่านั้น ทำให้หัวหน้าหมู่บ้าน และสามีของดานาโทร่าเสียชีวิตลง หลังจากนั้นเหมือนว่าจะถูกขับไล่ ดานาโทร่าและลุกหายตัวไป ทำให้ชาวบ้านร่ำลือว่าเป็นคำสาปเงือกที่คิไนยูกิเอามา ผู้คนในหมู่บ้าน เลยพากันจับคิไนไปถาม แล้วก็เห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือ ปู่ที่ควรจะอยู่คนเดียว กลับอุ้มเด็กทารกตัวเปียกยืนอยู่ ผู้คนเกิดความกลัวต่อลูกเงือก จึงได้ออกห่างจากตัวปู่ ส่วนแม่ของคิไนที่เรากำลังคุยอยู่นี้ คือเด็กที่ปูู่คิไนเก็บได้ที่ริมชายหาดมาเลี้ยง แล้วคิไนคนลูกบอกว่ามีของปู่ทิ้งเอาไว้จะมอบให้ ซึ่งบ้านปู่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามของหมู่บ้าน
ให้เรากลับไปที่โบสถ์ แล้วเปิดประตูด้านหลังไป จะเป็นบ้านของคิไน ยูกิ ด้านหลังบ้านมีหีบใส่เหรียญเล็กเอาไว้ เดินไปหน้าประตูแล้วคิไนจะหยิบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวให้ ซึ่งเป็นของที่ปู่ทิ้งไว้ก่อนตาย หลังจากนั้นให้เราวาร์ปกลับไปหาเงือกโรเมีย โรเมียจะถามถึงคิไนว่าได้เจอไหม ทำไมเค้าไม่กลับมาพร้อมกัน แล้วเกมจะถามว่าจะให้โกหกโรเมียไปไหม ให้ตอบข้อแรกไป 2 ครั้ง แล้วเราจะเล่าเรื่องโกหกไป พร้อมมอบผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวให้ แล้วโรเมียจะมอบพิณเป็นการตอบแทน พร้อมทั้งบอกไม่ต้องเป็นห่วงเธอ เพราะเงือกสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 500ปี !!
ต่อมาให้ให้รูล่าวาร์ปมาที่ バンデルフォン地方.近海 แล้วเราจะเห็นเครื่องหมาย ! บนแผนที่ เดินเรือไปที่นั่นเล่นพิณแล้วจะเป็นทางลงไปสู่เมืองบาดาลมูวแรร์ เมื่อมาถึงแล้วให้วิ่งไปหาราชินีเงือกที่โบสถ์ แล้วคุยกับเงือกด้านในตัวแรก เค้าจะพาเราไปหาราชินี ซึ่งราชินีเธอได้รอเราอยู่แล้ว เธอจะบอกว่าเธอชื่อ เซเรน เธอสามารถใช้เวทย์มนต์ทำให้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ด้านบนได้ เธอรู้อยู่แล้วว่าเราจะมา เลยได้มอบ กรีนออป ให้ พร้อมทั้งขอบคุณที่ช่วยโรเมีย
หลังจากจบเหตุการณ์แล้วจะได้ถ้วย
恋の架け橋**หมายเลขเควสจะข้าม ไม่ต้องตกใจ เควสมันปลดล๊อคไม่เรียงเบอร์
Quest No.24 ナイショの木彫りの女神像ผู้กอบกู้แห่งปูชาราโอ้
ทำเควสเสร็จแล้ว ดูแผนที่จะเห็นเครื่องหมาย ! อยู่ซ้ายบน ให้แล่นเรือไปทางนั้น ระหว่างทางแวะขึ้นเกาะเล็กๆด้วย เอาถ้วยเรือเทียบท่าครบ บนเกาะนี้ในไหข้างๆบ้านพักจะมีเหรียญเล็กด้วย ออกจากเกาะเล็กมา แล่นต่อไปอีกก็จะเจอเกาะเล็กอีกเกาะ แวะขึ้นอีกรอบ เสร็จแล้วต่อไปจนถึงจุดหมาย สำรวจแล้วเราจะโดนวาร์ปมาที่อ่าวเล็กๆ ก็ขึ้นเทียบท่าไป
เมื่อขึ้นฝั่งมาแล้ว ด้านบนจะเป็นโรงเรียนหญิงล้วนเมดัล ด้านล่างจะเป็นหมู่บ้านปูชาราโอ้ ที่โรงเรียนหญิงล้วนจะไม่มีเนื้อเรื่อง แต่มีเควสให้ทำ มีที่เอาเหรียญเล็กไปแลก และเป็นที่สามารถดูมูฟวี่ย้อนหลังได้ ซึ่งเควสที่โรงเรียนหญิงล้วนขอข้ามไปก่อน เราไปลุยเนื้อเรื่องที่หมู่บ้านปูชาราโอด้านล่างก่อน
เมื่อเข้ามาแล้ว โรว์จะบอกว่าจะหาข้อมูลของอูลโนก้า โดยเริ่มจากซากโบราณด้านบนของเมือง พอจบอีเว้นท์แล้วไปรับเควสมาก่อน
เสร็จแล้ววิ่งขึ้นด้านบนสุดเลย(ทางขวาแผนที่)จะเจอซิลเวียกับเด็กหลงทาง เธอจะบอกว่าชื่อ เมล วิ่งต่อไปจนถึงหน้าโบราณสถาน ก่อนลงบันได ด้านหลังมีหีบที่มี Recipe อยู่ เสร็จแล้วเดินลงบันไดไปด้านล่าง ด้านในสุดจะพบภาพวาดฝาผนัง แล้วชาวบ้านกลุ่มนึงจะเข้ามาเพราะเชื่อว่าภาพนี้จะมอบความสุขและความโชคดีมาให้ แล้วเราจะออกมาด้านนอก ซิลเวียจะวิ่งมาบอกหาพ่อแม่ของเมลไม่เจอ ต่อมาให้เราวิ่งไปที่โรงแรมในเมืองที่อยู่แถวๆทางเข้าหมู่บ้าน แล้วพนักงานต้อนรับจะเข้ามาทักเรา พวกซิลเวียจะเข้ามาพอดีบอกว่าหาเมลไม่เจอ แล้วพนักงานต้อนรับจะบอกว่าภรรยาเขาเป็นพวกหูไว รู้ข่าวสารทุกเรื่อง (พวกเผือกเรื่องชาวบ้าน) โดยเค้าจะเชิญเราพักโรงแรมฟรี ก็ตอบตกลงไป เดินขึ้นไปด้านบนคุยกับ npc ตรงเค้าเตอร์ด้านบนเพื่อพักผ่อน 1คืน เมื่อเช้าแล้วออกจากโรงแรมวิ่งขึ้นเขาไปทางโบราณสถาน เราจะเจอเมลอีกครั้ง แล้ววิ่งไปตรงภาพวาดฝาผนังในโบราณสถาน เราจะไม่พบใคร แต่เราจะพบภาพมันต่างจากเมื่อวานตรงที่มีคนเพิ่มเข้ามา แล้วเราจะโดนดูดเข้าไปในรูปภาพ
โลกในรูปภาพ วิ่งเข้าไปด้านในสุดโลด แล้วรูปภาพจะคุยกับเราพร้อมชาวบ้านที่โดนควบคุมแบบไร้สติ เสร็จแล้วก็วิ่งไปด้านในสุดเถาวัลย์ขวางทางเราไว้ และมันจะเข้ามาดูดชาวบ้านไปและเข้ามาล้อมเราไว้ ให้เราหนีไปตามทางจนถึงรอยขาดของรุปภาพ ระหว่างทางจะเจอศิลาที่แตกหัก ข้อความจะเตือนว่ารูปภาพฝาผนังมันจะดูดและกลืนกินชีวิตผู้คน ซึ่งตัวจริงของมันจะโผล่มาในร่างของเด็กผู้หญิง ซึ่งซิลเวียจะสงสัยว่าเป็นเมลรึเปล่า จบแล้ววิ่งไปที่ทางออกได้เลย
กลับมาที่หมู่บ้านให้เราวิ่งไปทางเข้าแถวๆโรงแรมจะเจอเมลกำลังคุยกับชายแก่คนนึง ว่าภาพวาดในนั้นช่วยรักษาอาการป่วยได้ แล้วเราจะเดินเข้าไปทักพร้อมเปิดเผยตัวจริงของเมลว่าเป็นปีศาจนั่นเอง เสร็จแล้วให้เรากลับไปที่รูปภาพในโบราณสถานอีกครั้ง วิ่งเข้าไปด้านใสุดตรงเถาวัลย์ที่เคยจะดูดเรา แล้วปีศาจรูปภาพจะเปิดทางให้เรา เพราะมันจะดูดเราให้ได้ เดินเข้าไปด้านใน วิ่งไปตามทาง (ทางไม่ค่อยงงมากเท่าไหร่) ตรงรุปปั้นเซฟสามารถเติมพลังได้ เพราะงั้นระหว่างทางจัดเต็มได้เต็มที่ เซฟแล้ววิ่งเข้าไปจะพบกับเมลที่ขอบคุณว่าเรามาเป็นเหยื่อให้ถึงที่ แล้วเธอจะแปลงร่างกลับร่างเดิมในชื่อ เมลทัว หลังจากปราบได้แล้ว เราจะได้กุญแจเวทย์มนต์สำหรับไขประตูที่ก่อนหน้าเราไขไม่ได้ เสร็จแล้วโดดออกจากรอยขาดของภาพ แล้วเราจะพบชาวบ้านที่ถูกดูดเข้าไปก่อนหน้าออกมาทั้งหมด แล้วเจ้าของโรงแรมจะถามว่าเกิดไรขึ้น เมื่อเราอธิบายไป เค้าจะให้เราพักผ่อน 1 คืน พร้อมขอบคุณเราที่ช่วยหมู่บ้านไว้ แล้วถ้วย
プチャラオの救世主 จะเด้งต่อมา ที่โรงเรียนหญิงเมดัล メダル女学園 ที่อยู่ด้านบน ตรงนีไม่มีเนื้อเรื่อง แวะมาทำเควสเท่านั้น สำหรับคนไม่ทำเควสก็ข้ามไปได้เลย
Quest No.21 思い出の木の下でรับกับบริจิดที่อยู่ในหอพักนักเรียนชั้น 2 เควสนี้จะอยู่ระหว่างทางเนื้อเรื่องไปเก็บออปที่เหลือ เค้าจะให้เราไปอ่านหนังสือพิมพ์แห่งนึง ซึ่งมันได้เอาไปติดตรงป้ายในหุบเขาลึกที่อยู่แมพทาง่ขวาของโรงเรียนแล้ว ให้ดูตามรูป โดยมันจะแปะอยู่ด้านหลังป้ายนะ ใครสำรวจหน้าป้ายไม่ถือว่าจบเควส พออ่านเสร็จแล้วก็กลับไปคุยกับบริจิตที่ชั้น 2
ผู้ปลดปล่อยแห่งเครโมรัน
จากโรงเรียนหญิงเมดัลไปต่อทางขวาเข้าไปในหุบเขา พอเข้ามาแล้ว จุดหมายเราคือด้านบนสุดของหุบเขาแห่งนี้ เราจะเจอหีบพร้อมนกที่มันเฝ้าหีบอยู่ กำจัดแล้วเปิดหีบเราจะได้ ซิลเวอร์ออป เป็นชิ้นที่ 4 เท่ากับว่าตอนนี้ขาดอีก 2 ชิ้น
ต่อมา วาร์ปไปที่ ネルセンの宿屋 (ตรงที่เราขับเรือมาจอดที่แรก ด้านขวาบนของทางเข้าเมืองบาดาล) ช่วงกลางๆแถวๆบ่อพิษเราจะเห็นทางลงไปยังห้องเก็บสมบัติ ทางลงด้านขวาจะสามารถใช้กุญแจเวทย์มนต์ไขประตูเข้าไปได้ เปิดหีบในนั้นเราจะได้ เพอเพิ้ลออป
ต่อไป ออปชิ้นสุดท้ายจะอยู่ที่อาณาจักรเครโมรัน ประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะ ให้วาร์ปไปที่เกาะที่เราเจอเงือกบนชายหาด แล้วแล่นเรือขึ้นไปด้านบน ระหว่างทางจะเจอเกาะเล็กๆ แนะนำขึ้นไปเปิดประตูที่ใช้กุญแจเวทย์มนต์ จะได้ดาบฟัน 2 ฮิต (ฟันธรรมดาจะแรงกว่ามาก) และอีกเกาะนึงที่อยู่ข้างๆเครโมรัน แวะไปเปิดหีบก่อน เสร็จแล้วเข้าไปที่เครโมรันได้เลย (เกาะที่มีหิมะ) จอดเทียบท่าทางขวานะ
เมื่อเข้ามาแล้วเราจะเจอประตูหน้าแข็งเป็นน้ำแข็ง ให้เราอ้อมไปทางซ้ายบน จะมีทางเข้าเมืองอีกทาง (แวะแคมป์ไฟเอาเช็คพ้อยท์ด้วย) เมื่อเข้ามาแล้วจะพบว่าทั้งเมืองทั้งคนแข็งเป็นน้ำแข็งกันหมด โดยโรว์จะเสนอให้ลองหาผู้ที่รอดชีวิตอยู่ ให้เราเดินไปแถวๆหน้าประตูเมืองทางขวา เราจะพบผู้หญิงคนนึงไม่เป็นน้ำแข็ง ซึ่งเธอจะบอกว่าเมื่อ 3 เดือนก่อน มีแม่มดปรากฏตัวขึ้น แล้วสาปให้เมืองทั้งเมืองเป็นน้ำแข็ง แล้วเธอจะแนะนำตัวว่าเธอเป็นราชินีของประเทศนี้ชื่อ ชาล แล้วเวโรนิก้าจะพูดว่าคงไม่ใช่เวลามาห่วงเรื่องออป ชาลได้ยินจึงบอกว่าออปนั้นอยู่ในปราสาท (ซึ่งก็โดนแช่แข็งเช่นกัน) เราก็ไม่มีทางเลือกต้องตอบตกลงเพื่อปลดปล่อยเมืองจากการแช่แข็ง โดยชาลจะบอกว่าแม่มดจะอยู่ที่ทางตะวันออกของทุ่งน้ำแข็งในป่ามิลเลออน ให้เราออกจากเมืองไปด้านขวา จะมาโผล่ที่ดินแดนเครโมรัน ให้เราไปแมพทางขวาต่อจะมาโผล่ที่ทุ่งน้ำแข็งชิเคสเบีย เมื่อเข้ามาแล้วจุดหมายคือด้านบนที่เป็นป่ามิลเลออน แต่ให้แวะกระท่อมก่อนถึงป่าก่อน ตรงนั้นมีหีบ Recipe เก็บเสร็จแล้วไปที่ป่าได้เลย
เมื่อเข้ามาในป่ามิลเลออนแล้ว จุดหมายเราอยู่ด้านบนสุดของป่า ตรงที่มีจุดเซฟนั่นแหละ เซฟไว้ด้วยนะ วิ่งต่อไปด้านบนสุดเราจะพลัดหลงกับเพื่อนๆ แล้วเราจะไปเจอเกรคสู่กับปีศาจมุนบาบาอยู่ แต่ก็พลาดท่า แล้วเราจะได้สู้กับ มูนบาบา แบบตัวต่อตัว ซึ่งเจ้ามูนบาบาเป็นปีศาจมือขวาแม่มด กำจัดแล้วแม่มดจะโผล่มาแช่แข็งเราไปครึ่งตัว แต่เวโรนิก้ามาช่วยทัน โดยเกรคบอกมีเรื่องที่ต้องทำมากกว่าจะมาจับพวกเรา แล้วผู้กล้าจะสลบไป แล้วจะไปฟื้นที่กระท่อมในทุ่งน้ำแข็งชิเคสเบีย
เมื่อฟื้นมาแล้ว เจ้าของกระท่อมจะมาแนะนำตัวว่าเป็นปราชญ์ชื่อ เอ็กเคะฮารุโตะ (ชื่ออ่านยาก ขอเรียกสั้นๆว่านักปราชญ์ละกัน) เค้าจะบอกว่า แม่มดนั้นชื่อ รีสเรท ส่วนวิธีผนึกแม่มดนั้น จะมีหนังสือต้องห้ามอยู่ในห้องสมุดโบราณตรงหน้าผาสูงบอกวิธีผนึกแม่มดอยู่ ออกมาจากกระท่อม เราจะเห็นห้องสมุดโบราณอยู่ด้านขวามือเรานี่เอง แต่ต้องอ้อมลงไปด้านล่างเพื่อขึ้นหน้าผา (ตรงบริเวณแคมป์ไฟด้านล่าง) ให้เราลงไปด้านล่างแล้วอ้อมขึ้นผามา แล้ววิ่งขึ้นด้านบนมาที่ห้องสมุดโบราณ
ที่ห้องสมุดโบราณ มันก็จะงงๆหน่อย
ชั้น 1 มาถึงวิ่งขึ้นไปด้านบนห้อง สับสวิตซ์ที่อยู่ข้างๆสไลม์ เสร็จแล้วบริเวณขวาล่างจะมีสวิตซ์อีก 1 อัน สับแล้วจะมีทางให้ไปต่อ แล้วเดินขึ้นไปชั้น 2
ชั้น 2 วิ่งผ่ากลางไปฝั่งตรงข้าม แล้วขึ้นด้านบนจะมีสวิตซ์อยู่ สับแล้วบันไดตรงกลางจะยกขึ้น วิ่งกลับไปตรงกลางขึ้นชั้น 3
ขั้น 3 บริเวณขวาล่างจะมีรูให้เข้าไปด้านใน แล้ววิ่งขึ้นไปชั้น 4
ชั้น 4 เดินไปสับสวิตซ์ตรงกลางห้อง แล้วทางชั้น 3 จะเปิด
ชั้น 3 ทางไปต่อไม่ได้ ไปด้านบนสับสวิตซ์อีกครั้งเพื่อเอาบันไดมา แล้วลงไปชั้น 2 จากตรงกลาง
ชั้น 2 วนไปทางซ้าย ขึ้นด้านบน(ขวาๆหน่อย) แล้วเดินขึ้นไปชั้น 3
ชั้น 3 วิ่งไปตรงกลางโลด
หนังสือจะบอกวิธีผนึกแม่มดคือดูดพลังมันลงหนังสือเวทย์ แต่ต้องจัดการกับมือขวาแม่มดซะก่อน ซึ่งเราจัดการไปแล้วตอนเจอกับเกรค จบแล้วตรงทางออกมีสวิตซ์ให้สับ เดินลงชั้น 2 บริเวณซ้ายล่างเดินลงชั้น 1 เปิดหีบ เสร็จแล้วใช้ลูร่าวาร์ปกลับเครโมรัน แล้ววิ่งไปหาราชินีแชล ซึ่งเวโรนิก้าจะดูออกว่าแท้จริงแล้วเธอคือแม่มดรีสเรท แล้วเราจะได้สู้กับเธอ พอชนะแล้ว เราจะผนึกเธอลงสมุดเวทย์ แล้วทั้งคนและเมืองจะกลับสู่สภาพเดิม แล้วราชินีแชลตัวจริงจะออกมาจากหนังสือ จากนั้นให้เราเข้าปราสาทไปหาราชินี (ในปราสาท ห้องทางซ้ายในตู้เสื้อผ้ามีมีด) เมื่อเราไปเจอราชินีแล้ว หนังสือจะเรียกเราแล้วบอกว่า เธอคือราชินีตัวจริง ส่วนคนที่นั่งอยู๋คือแม่มด ซึ่งก็มีการถามตอบกันเกิดขึ้นเพื่อยืนยันตัวจริง แล้วราชินีตัวจริงจะออกมาจากหนังสือ ซึ่งแม่มดนั้นไม่มีพลังเหลือกับการต่อสู้อีกแล้ว จึงยอมแพ้แต่โดยดี แต่ราชินีแชลจะมาขวางไว้ แล้วขอให้ยกโทษให้ เพราะในระหว่างที่อยู๋ในหนังสือ ได้ฟังเรื่องราวมากมายของรีสเรท และตอนนี้เธอก็ไม่เหลือพลังเวทย์ไว้ทำชั่วอีกแล้ว แล้วราชินีจะมอบบลูออปให้ ซึ้งเป็นออปชิ้นสุดท้ายในการเปิดสะพานสายรุ้งสู่ต้นไม้แห่งชีวิต ตอนนี้เรารวบรวมครบแล้ว ได้เวลาไปที่ต้นไม้กันเลย ให้เราเดินออกมาหน้าเมือง เจออีเว้นท์พร้อมถ้วย
クレイモランの救済者Quest No.26 魔女に恋した男Quest No.27 バイキングと王国民ต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิต
วาร์ปไปทุ่งหิมะชิเคสเบีย シケスビア雪原 แล้ววิ่งไปทางขวาไปภูเขาเซรันด้า วิ่งไปด้านขวาตามทางจนถึงแดนศักดิ์สิทธิ์รัมด้า 聖地ラムダ ซึ่งที่นี่เอง เป็นบ้านเกิดของเวโรนิก้าและเซเนีย ให้เราวิ่งตรงไปด้านในสุดจะเจออีเว้นท์ แล้ววิ่งไปวิหารที่อยู่ตรงกลาง คุยกับฟานาร์ดจะเข้าอีเว้นท์ต่อ แล้วเค้าจะเปิดประตูด้านหลังวิหารให้ เพื่อไปสู่ป่าของผู้ก่อตั้ง 始祖の森 แต่ก่อนอื่นเรามารับเควสกันก่อน เพราะเควสมันให้ทำตรงทางผ่านพอดี
รับเควสหมดแล้วไปที่ป่า 始祖の森 หลังวิหารได้เลย วิ่งทะลุไปอีกแมพนึงก็จะไปโผล่ป่า 始祖の森 ได้ เมื่อเข้ามาแล้วเราจะเห็นแท่นที่เป็นสะพานไปถึงต้นไม้แห่งชีวิตอยู่บริเวณกลางแมพ ให้วิ่งไปตรงนั้น แล้วออปจะบินเข้าไปใส่ตามแท่นเปิดสะพานสายรุ้งให้เราเดินขึ้นสู่ต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิต
ที่ต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิต จะมีบ่อน้ำอยู่ อันนึ้คือกลับลงมาด้านล่างนะ ไม่ต้องลง วิ่งตรงเข้าไปด้านในสุดเลย แล้วโรว์จะบอกให้เราไปหยิบดาบผู้กล้ามา แต่ด้วยความลีลา โฮเมรอสจะเข้ามาขัดขวางพร้อมกับพลังแห่งความมืด แล้วเราจะได้สู้กับโฮเมรอส แต่เราจะสู้ไม่ได้ (เกมบังคับแพ้) แล้วเกรคกับราชาเดลคาดาลจะเข้ามาขัดขวางโฮเมรอส แต่เกรคก็โดนราชาเดลคาดาลจัดการจากด้านหลัง พร้อมกับเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของจอมมารอุลโนก้า แท้จริงเข้ามันสิงร่างของราชาเดลคาดาลมาโดยตลอดนั่นเอง (เล่นมาครึ่งเกม ตัวร้ายพึ่งโผล่) แล้วอุลโนก้าได้ทำการขโมยพลังผู้กล้าไปเป็นของตัวเอง พร้อมกับหยิบดาบผู้กล้า และแปลงมันให้กลายเป็นดาบแห่งราชาปีศาจ พร้อมทำลายต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิตให้ร่วงหล่นสู่ผืนดิน และโลกก็จมลงสู่ความมืดมิด พร้อมถ้วย
命の大樹にて-จบ Part 2-
ความเศร้าโศกในหัวใจ
เริ่มฉากด้วยย้อนความวัยเด็ก จากนั้นจะมีตัวหนังสือขึ้น เขียนว่า “หาผู้กล้าเจอไหม” “ไม่เจอเลยครับ หาทั่วโลกแล้วไม่เจอเลย” “งั้นหรอ ผู้กล้าตายแล้วสินะ” “โลกนี้เป็นของข้าแล้ว”
เราจะตื่นมาในสภาพร่างกายเป็นปลาในเมืองบาดาลมูแรร์ ให้ว่ายไปตรงฟองน้ำ(จุดเขียวๆ)จะลอยตัวขึ้นไปด้านบน ให้เราว่ายไปหาราชินีเซเรน ซึ่งเธอจะบอกว่าราชาปีศาจนึกว่าผู้กล้าตายไปแล้ว เธอเลยเปลี่ยนเราให้กลายเป็นปลาเพื่อซ่อนตัว และเรื่องก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วด้วย ราชินีเซเรนบอกว่าเธอรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น และจะเล่าให้เราฟังทั้งหมด แล้วเธอจะเปิดประตูที่อยู่ด้านบน ให้เรากด R2 เพื่อลอยตัวไปด้านบนและตามราชินีเข้าไปด้านใน
เธอจะให้เราดูไข่มุกที่สามารถมองเรื่องราวโลกภายนอกได้ ให้เราว่ายไปสำรวจไข่มุก แล้วเราจะได้เห็นโลกที่พังพินาศ ไม่มีแม้แต่แสงสว่างส่องลงมาเลย ส่วนราชินีเองทำได้แค่มอง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ตัดภาพมาที่ชาวบ้าน ผู้คนสิ้นหวังและท้อแท้ ทำได้แค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ แต่ก็มีวีรบุรุษปรากฏตัวขึ้นที่ทางใต้ของเดลคาดาล เรียกว่า ป้อมปราการสุดท้าย เค้าคือ เกรค นั่นเอง ซึ่งเกรคจะคอยช่วยเหลือและปกป้องผู้คนจากพวกมอนสเตอร์ทั้งหลาย อีกด้านนึง แรงสั่นสะเทือนที่เราเห็นนั่นคือกองทัพของอุลโนก้ามาบุกถึงที่ แต่ก็มีเกราะช่วยป้องกันเอาไว้ แต่ราชินีก็บอกว่ามันถึงขีดจำกัดแล้วหละ จากนั้นให้เราว่ายออกไปด้านนอกสุดเลย ราชินีจะส่งเราขึ้นไปบนผิวน้ำ พร้อมทั้งฝากความหวังและชะตาที่จะต่อกรกับราชาปีศาจอุลโนก้าไว้ที่เรา แล้วกองทัพป๊ศาจจะบุกเข้ามาพอดี เมื่อบังคับตัวได้ ให้พาตัวเองไปหาเบ็ดตกปลาที่ชาวประมงหย่อนเอาไว้ พอชาวประมงคนนั้นตกเราขึ้นไปได้ เราจะกลับร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง และเค้าจะพาเราไปส่งที่ท่าเรือพร้อมถ้วย
悲しみを胸にธงแห่งชัยชนะ
เมื่อขึ้นเกาะมาแล้ว ถ้าสำรวจตัวเองจะพบว่าสกิลผู้กล้าของเราหายไป และสถานที่ที่เคยเปิดวาร์ปไว้ก็หายไปหมด วิ่งไปแคมป์ไฟเพื่อเก็บจุดวาร์ปไว้ก่อนเลย แล้วไปแมพด้านซ้ายล่าง เสร็จแล้วเข้ามาจะเห็นว่ามันคือด้านหน้าหมู่บ้านบ้านเกิดเรานั่นเอง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นป้อมปราการณ์สุดท้ายไปแล้ว ให้ลงไปด้านล่างสุดอดีตหมู่บ้านของเรา เมื่อเข้าไปในหมู่บ้านจะพบกับเอม่า คุยจบแล้วให้วิ่งตามเอม่าไป เราก็จะพบกับป้าเพลร่านั่นเอง หลังจากคุยจนหายคิดถึงกันแล้ว เดินไปหาราชาเดลคาดาลในเต้นท์ใหญ่ๆ มันจะอยู่ด้านซ้ายของร้านขายอาวุธ คุยกับทหารหน้าเต้นท์แล้วเค้าจะเปิดทางให้ วิ่งเข้าไปพบกับราชาเดลคาดาล แล้วราชาจะขอโทษเราในหลายๆเรื่องที่โดนจอมมารสิง ซึ่งราชาไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดและจำอะไรไม่ได้ เหมือนตกอยู่ในความฝันอันยาวนานมากกว่า แล้วราชาจะถามเราจำเรื่องที่ต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิตไหม ตอบอะไรไปก็ได้ ซักพักทหารจะวิ่งเข้ามาบอกค่ายโดนบุก ให้วิ่งขึ้นไปทางออกด้านบนหมู่บ้าน แล้วเราจะพบกับเกรค ซึ่งราชาจะขอให้เราช่วยร่วมมือกับเกรคในการต่อสู้กับกองทัพปีศาจ วิ่งออกไปด้านนอกจะพบกับกองทัพปีศาจ ให้เราจัดการให้หมด (ในถ้ำด้านขวา เหมือนเมทัลสไลม์จะออกบ่อย ลองวิ่งไปตีค้างคาวดู) ให้วิ่งไปหาเกรคจะได้สู้กับดูลาฮาล เมื่อชนะแล้วกลับมาคุยกับราชาเดลคาดาลที่เต็นท์ ซึ่งราชาบอกว่าวิธีจะทวงแสงสว่างคืนมาคือต้องไปจัดการกับปีศาจที่อยู่ในปราสาทเดลคาดาล โดยทางเข้าคือทางน้ำใต้ดินที่เราหนีมากับคามิว แล้วราชาจะมอบกุญแจในปราสาทให้เรา เสร็จแล้วให้ออกจากหมู่บ้านด้านบน ไปคุยกับเกรค เราจะซ้อนม้าเกรคมาโผล่ที่โบสถ์ที่เราเคยหนีมา ต่อไปให้เราขึ้นปราสาทเดลคาดาลโดยผ่านทางระบายน้ำที่อยู่ด้านซ้ายบนแมพนี้
ที่ทางน้ำใต้ดิน เดินเข้าไปอีกแมพ ซึ่งแมพนี้จะเป็นแมพที่เราหนีมังกรมา ตอนนี้เราสู้มันได้นะซึ่งก็ไม่ได้อะไรนอกจากฉายาเท่านั้น วิ่งถัดไปอีกแมพทางซ้ายเลยก็ได้ แมพนี้จุดหมายคือแมพถัดไปทางซ้ายบน ประตูในแมพนี้สามารถใช้กุญแจที่ราชามอบให้ไขไปเก็บของได้หมด แมพถัดมาเราจะอยู่ในตัวปราสาทแล้ว แมพนี้จะมีจุดเซฟด้านล่าง ส่วนทางลงใต้ดินตรงกลางคือคุกที่เราโดนจับขัง สามารถวิ่งไปเปิดประตูห้องขังเก็บของแค่บางห้องได้ ส่วนทางที่เราไปจริงๆคือด้านซ้ายบน เราจะเข้ามาในตัวปราสาทแล้ว ให้เรากดดูแผนที่ เราจะเห็นบริเวณซ้ายล่างที่เป็นสวนจะมีรูปต้นไม้ที่เอาไว้ดูอดีตอยู่ ให้เราไปที่นั่นสำรวจต้นไม้ แล้วเราจะเห็นอดีตของเกรคกับโฮเมรอส แล้วเกรคจะนึกออกว่ามีห้องลับในห้องครัวที่เชื่อมไปชั้น 2 ได้ ให้ขึ้นไปด้านบนสุดในห้องครัวทางซ้ายบน สำรวจที่ตู้ข้างผนังเราจะพบกับทางลับหลังตู้แล้วเราจะขึ้นไปชั้น 2 ได้ ให้เดินขึ้นไปด้านบนสุดซึ่งเป็นห้องโถงของพระราชา แล้วเราจะพบกับโฮเมรอส แล้วเราจะเห็นอดีตของโฮเมรอสมากขึ้น ซึ่งก็เกิดจากความน้อยใจ และความต่างของความสามารถ ทำให้โฮเมรอสหันเข้าหาดาร์คไซด์ แล้วโฮเมรอสจะบินหนีไป จากนั้นขุนพลป๊ศาจโซลเด้ 1ใน6 ขุนพลจะปรากฏตัวออกมา ในระหว่างต่อสู้นั้นมันจะแยกเงาออกมา ไม่ต้องสนใจเงา เพราะฆ่าไปมันก็งอกมาใหม่อยู่ดี จัดการแต่ตัวจริงพอ เมื่อชนะแล้วเราจะได้เพอเพิ้ลออปกลับคืนมาพร้อมกับแสงสว่าง ให้เรากลับไปป้อมปราการณ์สุดท้ายด้วยลูร่า
เมื่อมาถึงเราจะไม่พบใครเลยในหมู่บ้าน ให้เราวิ่งลงไปด้านล่างสุดของหมู่บ้าน เปิดประตูไม้อีกชั้นเราจะพบทุกคนมาเซอร์ไพร์สเรา และฉลองในชัยชนะที่สามารถทวงแสงสว่างกลับมาได้อีกครั้ง แล้วเราจะได้เกรคเข้าเป็นพวก พร้อมถ้วย
勝利の旗ฝึกฝนไม้ตาย
ไปหาราชาเดลคาดาลที่เต้นท์ ราชาจะบอกว่าที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ด้านเหนือภูเขาเซรันด้ากับทางใต้ภูเขาโดรันด้า ที่นั่นมีคนที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับผู้กล้า บางทีอาจจะมีวิธีจัดการกับจอมมารอุลโนก้าก็ได้ เสร็จเดินออกจากเมืองด้านบน ไปแผนที่ด้านซ้ายที่ป่านาบุกาน่า แล้วไปแมพทางซ้ายไปชายหาดโซลเทียน่า ตรงนี้แนะนำว่าให้เข้าแคมป์ไฟเพื่อเอาเช็คพ้อยท์ไว้วาร์ปก่อน แล้วเดินขึ้นไปแมพด้านบน ภูเขาโดรันน่า วิ่งเข้าถ้ำด้านบนไปตีมังกรเพื่อขี่บินในถ้ำเพื่อทะลุออกมาอีกฝั่ง แล้วเราจะเห็นหมู่บ้านโดรุด้า เดินเข้าไปในหมู่บ้าน หลวงจีน 3 คนจะเห็นเกรคเป็นทหารเดลคาดาล เลยมาหาเรื่อง แต่ก็จะมีหลวงจีนอีกคนชื่อซังโปเข้ามาห้าม และเขาจะสัมผัสพลังผู้กล้าได้จากเรา ให้เราเดินเข้าไปในวัดวิ่งขึ้นบันได เปิดประตูเข้าไปแล้วขึ้นบันไดไปอีก เข้าประตูด้านบนสุด เจออีเว้นท์ (ตรงนี้ค่อยแปลละกันยาว) แล้ววิ่งเข้าไปด้านในคุยกับซังโป เสร็จแล้ววิ่งตามซังโปเข้าไปคุยอีกรอบ จบอีเว้นท์แล้ววิ่งออกมาด้านนอกพบอีกอีเว้นท์ หลังจบอีเว้นท์แล้วจะรับเควสได้ตรงก่อนขึ้นชั้นบนสุด เสร็จแล้วออกมานอกหมู่บ้าน เข้าถ้ำที่อยู่ทางขวาหมู่บ้าน เดินทะลุถ้ำออกไปอีกด้าน เราจะพบโรว์ในสภาพจำแทบไม่ได้ นั่งสมาธิฝึกวิชาอยู่ ไปเปิดวาร์ปที่แคมป์ไฟข้างหน้า แล้วเซฟด้วย ห้ามลืม แล้วเดินเข้าไปคุยกับโรว์ แล้วเราจะจำโรว์ได้จากสร้อยที่ห้อยคอ (แค่นิตยสารก็น่าจะจำกันได้แล้วมั้ง) แล้วซังโปจะช่วยเราพาเราเข้าไปในจิตใจของโรว์
ในจิตใจของโรว์ วิ่งเข้าไปอีเว้นท์ยาวๆไป เราจะได้สู้กับโรว์เพื่อฝึกฝนท่าไม้ตาย การต่อสู้กับโรว์เป็นอะไรที่ยากลำบากมาก เพราะเราจะโจมตีได้ด้วยท่าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น แถมโรว์ยังตีแรงอีกด้วย ให้คอยฮีลแล้วใช้ท่าใหม่ตอดไปเรื่อยๆ เมื่อชนะแล้วอีเว้นท์ไปยาวๆจนจบ เดินออกมาหน้าหมู่บ้านจะได้โรว์เข้ามาเป็นพวกพร้อมปลดถ้วย
奥義体得Quest No.30 ドゥルダの心得เพื่อนพ้อง
วาร์ปกลับมาที่ชายหาดโซลเทียน่า แล้วไปทางซ้ายจะเป็นเขตเมดาแชท ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนหญิงเมดัล กับ หมู่บ้านปุจาราโอ้ ซึ่งโรงเรียนหญิงเมดัลจะมีแต่เควสให้รับไม่มีเนื้อเรื่องซึ่งบางเควสก็ยังไม่สามารถทำได้ทันที ดังนั้นจึงขอข้ามเควสไปก่อน แต่ให้เข้าไปเพื่อเอาเช็คพ้อยท์สำหรับวาร์ปทิ้งไว้ ให้เดินลงไปที่หมู่บ้านปุจาราโอ้ที่อยู่ด้านล่างก่อน ซึ่งระหว่างทางเราจะพบคัทซีนของซิลเวีย ซึ่งซิลเวียยังคงใช้วิธีการของตัวเองสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในโลกที่สิ้นหวังแห่งนี้ แล้วซิลเวียจะเข้าไปช่วยชายคนนึงที่ถูกมอนสเตอร์ทำร้าย หลังจบคัทซีนเราจะได้ชุดรขนนกของซิลเวีย (ถ้าเกลียดก็เปลี่ยนเกราะตอนนี้เลย) จบคัทซีนจะได้ถ้วย
ナカマと共に มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านปุจาราโอ้ได้เลยสิ้นสุดแห่งฝันร้าย
เมื่อเข้ามาซิลเวียจะให้ช่วยหาว่ามีใครต้องการความช่วยเหลือไหม ให้เราวิ่งไปที่บ้านคนที่เราพึ่งช่วยมา อยู่ด้านซ้ายของโบสถ์ สรุปสั้นๆว่าคนที่เราพึ่งช่วยมาชื่อบาฮาโทร่า เมียตาย ลูกหายตัวไปหาไม่เจอ เสร็จแล้วออกมาข้างนอกรับเควสทิ้งไว้ก่อน
เดินออกมานอกหมู่บ้าน เดินลงไปที่ถ้ำด้านล่าง เราจะเจอลูกของบาฮาโทร่า เค้าบอกว่าออกมาหาสร้อยคอของแม่ที่หายไปซึ่งหาไม่เจอ คิดว่าน่าจะอยู่ในถ้ำ ให้วิ่งเข้าถ้ำ เราจะพบกับ ฟูลฟูล ปีศาจที่จับตัวชาวบ้านมาขัง จัดการมันซะ แล้วเด็กจะหาสร้อยคอเจอ พร้อมช่วยชาวบ้านที่โดนจับออกมาได้ เสร็จแล้วกลับไปหาบาฮาโทร่า แล้วพ่อลูกจะเคลียร์ปมในใจกัน เสร็จแล้วเดินไปตามหาซิลเวียบนเขา ซิลเวียจะบอกว่าอยากกลับมารวมกลุ่มกับเรา แต่ต้องจัดการกับขบวนพาเหรดที่เค้าสร้างขึ้นมาซะก่อน เสร็จแล้วเดินออกไปด้านนอกหมู่บ้าน ซิลเวียจะบอกว่าจะเอาขบวนพาเหรดไปฝากไว้ให้กับพ่อของเค้าดูแลชั่วคราว ที่เมืองโซลทิโก้ จบคัทซีนเสร็จวาร์ปกลับชายหาดโซลเทียน่า แล้วขี่ม้าลงไปด้านล่าง โดยอ้อมไปทางทะเลด้านขวาจะมีถ้ำให้ลอดผ่าน เข้าไปที่เมืองโซลทิโก้
ที่โซลทิโก้ ให้วิ่งไปที่บ้านจิเอโก้ (บ้านที่เราไปขอให้เปิดประตูน้ำ) วิ่งขึ้นชั้น 2 เปิดประตูห้องทางซ้าย เข้าไปเจอจิเอโก้ แต่ซิลเวียจะหายให้เราเดินไปตามซิลเวียที่ชายหาด ซึ่งซิลเวียตัดสินใจที่จะกลับไปคุยกับพ่ออีกครั้ง ให้เรากลับไปที่ห้องจิเอโก้อีกรอบ ซึ่งจิเอโก้ พ่อของซิลเวียจะเข้าใจในสิ่งซิลเวียพยายามทำ และไม่ว่าอะไรอีกแล้ว แล้วซิลเวียจะฝากขบวนพาเหรดไว้ที่พ่อเขา จบคัทซีนแล้วสำรวจตู้เสื้อผ้ากับชั้นหนังสือด้วย มี Recipe อันนึง เดินออกมานอกบ้านพบคัทซีนร่ำลากันเสร็จจะได้ซิลเวียเข้าเป็นพวก แน่นอนว่าตอนนี้เราจะสามารถออกเรือได้แล้ว ให้เราไปที่ท่าเรือด้านขวา แล้วแล่นเรือไปที่โรงแรมเนลเซน (ตรงขวาบนของทางเข้าเมืองบาดาล) ก่อนไปแวะไปเปิดเช็คพ้อยท์ที่เมืองท่าดาฮาลเน่ก่อน พอช่วงที่เราจะขึ้นเทียบท่าพบคัทซีนปีศาจจาโกร่า แล้วเราจะร่วงลงจากเรือ
เราจะตื่นมาที่ไหนไม่รู้ ให้วิ่งไปที่บ้านแล้วปีนขึ้นบนหลังคาคุยกับคนบนหลังคา เราจะรู้ว่าเค้าคือผู้พยากรณ์ แล้วให้เราลงมาคุยกับเค้าในบ้าน เกี่ยวกับพลังของผู้กล้าที่โดนชิงไป แต่เค้าจะบอกว่ายังไงชะตาของผู้กล้าก็ไม่ตายง่ายๆหรอก เพราะต้องไปสู้กับจอมมารและช่วยโลก และเค้าจะส่งเรากลับไปโลกของเรา หลับจบคัทซีนแล้วให้เราวิ่งไปนอนที่โรงแรมเนลเซน 1 คืน แล้วเราจะเห็นอัศวินใส่เกราะคนนึงเหมือนตกอยู่ในความเศร้าและความทรมาน จากนั้นก็มีเสียงอีกเสียงนึงบอกให้ตอบรับคำขอร้องให้ช่วยปลดปล่อยอัศวินผู้นั้นจากความสิ้นหวัง เมื่อตื่นขึ้นมาเราจะพบว่าทุกคนฝันเหมือนกันหมด แล้วโรว์จะบอกว่าให้ไปที่ยุคุโนอา บ้านเกิดของเรานั่นเอง
ไปยุคุโนอาจากทางซ้ายของแมพ จะมาโผล่แถวๆด้านล่าง แล้วเข้ายุคุโนอาไป เข้ามาแล้วลงบ่อน้ำไปโผล่อีกฝั่ง วิ่งเข้าไปด้านในสุดจะเจอเศษหินทับปิดทางไว้ แล้วเราจะช่วยกันจัดการหินจนเปิดทางได้ เดินลงไปชั้นใต้ดิน แล้ววิ่งไปตามทางด้านในจนสุดจะพบกับอัศวินใส่เกราะที่เราเห็นในความฝัน แล้วเราจะได้สุ้กับอัศวินใส่เกราะ เมื่อชนะแล้วเค้าจะพูดชื่อเรากับแม่ของเรา โรว์จะนึกออกว่าเค้าคือเออวิน ราชาแห่งยุคุโนอา พ่อของผู้กล้านั่นเอง แล้วโรว์จะสงสัยว่าทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้ พร้อมขอเปิดดูใบหน้า แต่แล้วก็จะเห็นว่าไม่มีหน้า แต่เป็นมิติอีกมิตินึง แล้วจะมีเสียงบอกว่าให้ช่วยปลดปล่อยเออวินด้วย สภาพตอนนี้จะมีชีวิตหรือจะตายก็ไม่ได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้จะปลดปล่อยยังไง ให้เรากดคุยกับเออวินอีกครั้ง แล้วเราจะโดนดูดย้อนกลับไปอดีต 16ปีที่แล้ว
เราจะอยู่ในห้องโถง ซึ่งเป็นวันประชุมของเหล่าราชาทุกประเทศบนโลก บังคับตัวได้แล้ว เปิดประตูออกไปข้างนอกจะพบกับราชาเดลคาดาล เออวิน และ โรว์ยืนคุยกันอยู่เรื่องที่ลูกชายของเออวินเกิดมาเป็นผู้กล้า หลังจากนี้จะถึงเวลาประชุม ซึ่งจะประชุมที่ชั้น 3 ให้เราขึ้นไปชั้น 3 ไปห้องของเอเลโนอาที่อยู่ทางซ้ายล่างของแผนที่ เราจะพบแม่ของเรากับมัลทิน่าตอนเด็ก แล้วเออวินจะเข้ามาบอกว่าได้เวลาประชุมแล้ว พร้อมอุ้มเราเข้าไป ระหว่างนี้ก็ได้เวลาขโมยของตามตู้และไห เมื่อพร้อมแล้ว ให้ขึ้นไปชั้น 3 เข้าห้องประชุมที่อยู่ด้านขวาของแผนที่
เนื้อหาการประชุมขี้เกียจแปล ระหว่างประชุมอยู่มีทหารเข้ามาบอกว่าเหล่ากองทัพปีศาจได้บุกปราสาทแล้ว เดินออกไปนอกห้องประชุม ราชาเดลคาดาลกับโรว์จะต้านตรงนี้เอง แล้วจะให้เออวินพร้อมผู้กล้าหนีไป ตอนนี้เราสามารถเข้าไปฟันศัตรูเล่นๆได้ แล้วมันจะไม่ตอบโต้ แต่ไม่แนะนำ เสียเวลา ให้เราวิ่งไปทางซ้ายมือ ไปหาแม่ของเรากับมัลทีน่า แล้วราชาเออวินจะเอเลโนอากับมัลทีน่าหนี ให้เราวิ่งลงไปชั้น 1 พบคัทซีน เสร็จแล้วให้เราวิ่งไปทางด้านหลัง เข้าห้องด้านบนจะพบเออวินหนีไปยังทางลับใต้ดิน ให้วิ่งตามไปจนสุดทางจะพบคัทซีน พร้อมมอนสเตอร์ 3ตัว ให้เราเข้าไปคุยกับมอนสเตอร์แล้วจะเข้าฉากสู้ ช่วยเออวินกำจัดศัตรูให้หมด จบแล้วพบคัทซีน
จะมีเสียงตามหามัลทีน่า ราชาเดลคาดาลนั่นเอง ให้เราวิ่งตามเออวินกลับไปตรงทางที่เรามาเมื่อกี้ พบอุลโนก้ากำลังสิงร่างราชาเดลคาดาลพอดี อุลโนก้าสังหารเออวินทิ้ง แล้วเกรคจะเข้ามา อุลโนก้าหลอกเกรคว่าเออวินจะเข้ามาทำร้าย เลยเผลอฆ่าไป พร้อมบอกว่าผู้กล้าเป็นผู้ที่ดึงดูดเอาความมืดเข้ามา ถ้าไม่มีผู้กล้าซักคนเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น เค้าไม่ใช่เด็กแห่งความหวัง แต่เป็นปีศาจร้ายที่นำพาความมืดมา เป็น เด็กปีศาจ พร้อมสั่งให้ไล่ล่าผู้กล้าเพื่อความสงบสุขของโรเซต้าเชีย
หลังจบคัทซีนแล้วจะมาอยู่ที่แห่งนึงพร้อมปีศาจตัวนึง วิ่งเข้าไปจะรู้ว่ามันชื่อ บาคุมอส เป็นปีศาจที่กลืนกินความสิ้นหวัง ซึ่งเออวินเปรียบเสมือนอาหารฟูลคอสของมัน พร้อมกับทำให้เรานึกถึงความสิ้นหวังที่ผ่านมาเพื่อจะกลืนกินเรา แล้วเราจะได้ยินเสียงแม่ของเราว่าภายในตัวเรายังมีแสงสว่างและรอวันที่จะตื่นขึ้น พร้อมปลุกผู้กล้าให้ตื่นขึ้น พบบอส บาคุมอส
เอาชนะแล้วเออวินจะฟื้นขึ้นมาจากความสิ้นหวัง และพ่อลูกจะได้พบหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเอเลโนอาจะมารับเออวินไปพร้อมคำจากลาสุดท้ายของแม่ แล้วผู้กล้าจะได้พลังกลับคืนมา พร้อมปลดล๊อคสกิลใหม่ ส่วนโรว์จะบอกให้เราเดินทางไปยังคล๊อตต้าเพื่อหาข้อมูลใหม่ๆ พร้อมถ้วย
悪夢の終わりพลังที่ตื่นขึ้น
ออกไปด้านนอกปราสาท คล๊อตต้าอยู่ด้านบนเรานี่แหละ ไปถึงแล้วจะพบผู้ชายคนนึงหน้าเมือง คุยแล้วเค้าจะบอกเกี่ยวกับข่าวลือว่าที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์เพียงแห่งเดียวบนโลกนี้ ให้เราเดินข้าไปในเมืองจะพบว่าทุกอย่างในนี้เปลี่ยนไปทั้งหมด และมีมอนสเตอร์ตัวนึงเข้ามาทัก มันบอกว่าที่นี่ ท่านบูกี้ 1ใน6 ขุนพลแห่งความมืด ได้เปลี่ยนสถานที่อันป่าเถื่อนอย่างโคลอสเซียมให้เป็นคาสิโนแล้ว จบคัทซีนให้เราไปคาสิโนทางขวาบนของเมือง จะเจอซัคคิวบัส ตอบข้อแรกแล้วเดินเข้าไปโลด
เข้ามาด้านในเดินขึ้นชั้น 2 จะเจอตัวค้างคาวขวางทางอยู่ ซึ่งมันบอกว่าจะขึ้นได้ต้องเป็น vip เท่านั้น ซึ่งมันบอกว่าถ้าเรามี ラブリーエキス (เลิฟลี่เอคิส) จะให้เราขึ้นไป ให้เราเดินไปที่เค้าเตอร์แลกของ เราจะสามารถแลกเลิฟลี่เอคิสในราคา 10000เหรียญคาสิโน ซึ่งถ้าเคยเล่นคาสิโนที่โซลทิโก้มาก่อนแล้วเหลือก็ซื้อได้เลย แต่ถ้าไม่เคย ก็ต้องไปนั่งโยกสล๊อตเรื่อยๆจนมีครบแล้วมาแลก (เอาแค่พอแลกพอนะ อย่าเล่นเผื่อ) เสร็จแล้วกลับไปคุยกับค้างคาว แล้วเราจะได้ขึ้นไปชั้น 2 (ขอแนะนำให้ออกไปเซฟก่อน แล้วค่อยขึ้น)
เมื่อขึ้นไปแล้วจะมีมอนสเตอร์มาต้อนรับ พร้อมการปรากฏตัวของมัลทีน่าโหมดปีศาจ ซึ่งบทพูดคุยของมัลทีน่าจะออกแนวสาย S ไปซะหน่อย สุดท้ายเราโน้มน้าวเธอกลับมาไม่สำเร็จ ก็ต้องใช้กำลัง พบบอส มัลทีน่าโหมดปีศาจ ซึ่งท่าของเธอจะออกแนวป่วนทีมซะมากกว่า หลังจากชนะแล้ว บูกี้ 1ใน6 ขุนพลจะออกมา แล้วเราจะรู้ว่า บูกี้ คือผู้เปลี่ยนมัลทีน่าให้เป็นโหมดปีศาจ และ เหล่าปีศาจที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด อดีตเคยเป็นมนุษย์มาก่อน ซึ่งก็โดนบูกี้มันเปลี่ยนอีกเช่นกัน พบบอส บูกี้ (สู้ต่อเนื่อง 2 ไฟต์ ถึงบอกให้เซฟไว้ก่อน) หลังเอาชนะบูกี้ได้แล้ว ผู้คนจะกลับมาเป็นมนุษย์ทั้งหมด และมัลทีน่าจะได้พลังใหม่เป็น Devil Mode และปลดล๊อคสกิลใหม่ แล้วเราจะได้กรีนออปกลับคืนมา (Devil Mode เป็นท่าที่ใช้ได้เลย อยู่ในคำสั่งท่าพิเศษอันขวานั่นแหละ) แล้วเราจะได้มัลทีน่ากลับเข้าพวก ส่วนพวกเหรียญคาสิโนจะกลายเป็นภาพลวงตา หายไปทั้งหมด และจะได้ถ้วย
目覚めし者.
ต่อไปเป็นเนื้อเรื่องย่อย สามารถข้ามได้(มั้ง) แต่ให้ดีก็แวะไปซักหน่อย ให้เราวาร์ปไปที่เมืองท่าดาฮาลเน่ (ถ้าไม่มีวาร์ปก็ขึ้นเรือแล้วเทียบท่าเอา) แล้วออกมานอกเมือง ไปทางขวาเพื่อเข้าเขตของทะเลทรายซาไมดี้ เข้ามาแล้วให้เราไปที่เมืองซาไมดี้เลย
เข้ามาแล้วเราจะเห็นดวงดาวขนาดใหญ่ลอยอยู่บนฟ้า เราจะเรียกมันว่า ดวงดาวแห่งผู้กล้า ส่วนเราจะเห็นเจ้ายอจจิสีดำเดินไปเดินมา โรว์จะบอกว่าที่ยุคุโนอามีเรื่องเล่าว่ารอช ผู้กล้ารุ่นก่อนหลังจากได้โค่นล้มเทพปีศาจ เพื่อจะเฝ้ามองโรเซตต้าเชียได้ตลอดกาลเลยได้กลายเป็นดาวงดาวผู้กล้าไป แล้วโรว์จะหันมาหาเราว่าเราเหม่อลอย ได้ฟังที่พูดป่าว จะให้เล่าซ้ำอีกมั้ย ถ้าตอบข้อแรกโรว์จะเล่าซ้ำอีกรอบ หลังจากคุยจบให้เราไปคุยกับพระราชาซาไมดี้
เราจะพบองค์ชายฟาริสบอกจะไปปลดปล่อยดวงดาวเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โรว์พบกับซาไมดี้ รื้อฟื้นความหลังเมื่อ 16 ปีก่อน เสร็จแล้วโรว์จะถามข้อมูลเกี่ยวกับดวงดาวผู้กล้า ราชาซาไมดี้จะบอกว่าองค์ชายฟาริสค้นพบตัวอักษรบนม่านพลังของดวงดาวผู้กล้า เพราะงั้นองค์ชายฟาริสเลยจะออกไปตรวจสอบว่ามันเขียนว่าอะไร ให้เราตามองค์ชายฟาริสไปเขตทะเลทรายบาคุราบะ (ทางซ้ายมือนั่นแหละ)
เมื่ออกไปทะเลทรายบาคุราบะทางซ้ายมือ จะพบองค์ชายเถียงกับข้ารับใช้ว่ามันอันตราย แต่องค์ชายฟาริสยืนยันจะเข้าไป หลังจากทักทายเสร็จแล้วองค์ชายบอกว่าจะไปรอที่ตรงกลางเขตทะเลทราย แล้วเค้าจะนำไปก่อน ให้เราตามไปตรงกลางที่มีเสาหินล้อมๆเยอะๆ จะพบกับองค์ชายฟาริสนอนมองฟ้าอยู่ เข้าไปคุยพบคัทซีน
ตัวเราจะเห็นเจ้ายอจจิเดินไปเดินมาอีกแล้ว ส่วนที่เหลือก็พยายามอ่านตัวอักษรไป ในขณะที่ทุกคนกำลังอ่านตัวอักษรอยู่ เจ้ายอจจิมันทำไรซักอย่าง ให้เราเดินไปคุยกับมัน ซึ่งซิลเวียจะทักว่าเราคุยอะไรคนเดียว เมื่อหันมาอีกทีเจ้ายอจจิไปท่องคาถาซะแล้ว ทำให้ดวงดาผ้กล้าเร่มตกลงมา แล้วจะมีเงามืดปรากฏขึ้น ส่วนโรว์นั้นพยายามอ่านข้อความสุดท้ายได้ว่า “นิสเซลฟา” ก่อนที่เงามืดจะทำลายดวงดาวผู้กล้าจนสิ้นซาก พร้อมจากไปด้วยข้อความ “เท่านี้โลกก็เป็นของเรา” ในขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงกับดาบมารที่เงามืดนั่นใช้ องค์ชารฟาริสไม่สนทั้งนั้นบอกเราได้ปลดปล่อยซาไมดี้แล้ว พร้อมกลับไปรายงานพระราชาก่อน
ให้เรากลับไปหาราชาซาไมดี้ โรว์จะถามเรื่อง นิสเซลฟา ที่อ่านได้จากดวงดาวผู้กล้า ราชาซาไมดี้บอกไม่เคยได้ยิน คงจะมีความหมายอะไรซักอย่าง จบเนื้อเรื่องย่อยของเขตทะเลทรายไซไมดี้
มือที่ปกป้องผืนทะเล
ต่อไปกลับเข้าสู้เนื้อเรื่องหลักกันต่อ วาร์ปไปเมืองท่าดาฮาลเน่ แล้วออกทะเลไปตรงช่องแคบทางซ้ายมือเพื่อไปเครโมรัน ระหว่างทางที่ออกจะพบคัทซีนได้ยินเสียงโครมในเรือ เมื่อเราไปดูจะพบว่าเป็นคามิวกำลังขโมยของกิน แต่กลายเป็นคามิวในสภาพความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้เลยยกเว้นชื่อของตัวเอง แล้วเราจะได้คามิวเข้าพวกในสภาพความจำเสื่อม จบคัทซีนแล้ว แล่นเรือไปหาสีขาวที่เราเจอกับเงือกเพื่อเอาวาร์ปเฉยๆ แล้วแล่นต่อไปด้านบนไปยังเมืองเครโมรัน แล้วเราจะเห็นว่าทางเข้ามีทองคำขวางทางอยู่ ให้เราอ้อมขึ้นด้านบน แล้วเข้าวาร์ปเพื่อมุดเข้าไปด้านใน
เมื่อเข้าวาร์ปแล้วจะตัดเข้าคัทซีน พบจาโกร่า 1ใน6 ขุนพลโผล่ขึ้นมาจากน้ำ แต่มันมีเกราะที่แข็งแกร่ง ฟันไม่เข้า แล้วผู้กล้าจะใช้พลังสลายเกราะมันไป พบบอส จาโกร่า เมื่อชนะแล้ว จาโกร่าจะบอกอุลโนก้าว่าผู้กล้าคืนชีพมาแล้ว ก่อนจะสลายร่างกลายเป็นเรดออร์ปไป แล้วเราจะได้ถ้วย
海の守り手การไถ่บาป
เข้าวาร์ปเพื่อมุดเข้าไปในอ่าวของเครโมรัน แล้วเทียบท่าเข้าเมืองเครโมรันไป พบคัทซีน คามิวจะรู้สึกทรมาน และจะไม่อยากเข้าเมือง แต่จะขอรออยู่ด้านนอก ส่วนโรว์จะบอกให้เราเข้าไปหาราชินีชาร์ล แล้วบอกคามิวให้เข้าไปด้วย ให้คนความจำเสื่อมอยู่ด้านนอกคนเดียวคงไม่ดี จบคัทซีนให้เราวิ่งเข้าปราสาทไปหาราชินี พบราชินีกำลังนั่งกลุ้มใจอยู่ ส่วนโรว์จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น ราชินีจะเล่าว่าเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเกิดโรคประหลาด ที่ทำให้ทั้งคนทั้งสัตว์กลายเป็นทองคำ ไม่รู้ทั้งสาเหตุและวิธีรักษา ถึงจะขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่น แต่ก็มีภูเขาทองคำปิดทางเข้าอยู่ ทำให้ไม่สามารถเข้ามาได้ เธอจะขอร้องให้เราช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ที
เดินออกไปด้านนอก พวกเราจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด แต่ก็เหมือนจะไม่ได้อะไร จนมีป้าคนนึงเดินผ่านมา โรว์จะถามข้อมูลเกี่ยวกับโรคป่วยนี้ แต่ยังไม่ทันตอบ เธอจำคามิวได้ แต่เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรเกี่ยวกับคามิวก็กลายเป็นทองไปซะแล้ว แล้วคามิวจะปวดหัวร้องลั่นออกมา จนบาทหลวงคนนึงออกมาดู และจำคามิวได้ แล้วบาทหลวงจะให้เราไปคุยที่โบสถ์ ให้เราไปที่โบสถ์ของเมือง (สัญลักษณ์เซฟจะหายไป เผื่อใครจำไม่ได้ จะอยู่ด้านซ้ายของประตูทางเข้ามือง) เมื่อเข้ามาที่โบสถ์ ให้วิ่งเข้าห้องที่อยู่ด้านในไป บาทหลวงจะรออยู่แล้ว
บาทหวงจะเล่าว่า ครั้งนึง เครโมรันเคยมีการแลกเปลี่ยนกับพวกไวกิ้งเกิดขึ้น ซึ่งคามิวก็เป็นลูกสมุนของพวกไวกิ้ง ซึ่งทั้งคามิวและน้องสาวถูกพวกไวกิ้งเก็บมาเลี้ยงแต่เด็ก อยู่มาวันนึง น้องสาวของคามิวก็ได้เสียชีวิตไป ส่วนคามิวก็ได้หายตัวไป ส่วนคามิวก็ทนฟังไม่ไหว จึงได้ขออยู่คนเดียวและเดินออกไป ให้เราตามไปด้านนอกเมือง ตรงแหลมด้านซ้ายที่ยื่นออกไป (ด้านบนแคมป์ไฟ) แต่คามิวยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็มีเรือของปีศาจทองมาเทียบท่า และบุกเมือง บาทหลวงจะรับหน้าที่ดูแลคามิว ให้เราไปกำจัดปีศาจทองทั้งหลายที่บุกเมืองเพื่อเอาทอง(ที่เป็นทั้งมนุษย์และสัตว์)ไปทั้งหมด เมื่อจัดการแล้ว ให้เรากลับไปหาคามิวที่แหลมที่เดิม แต่บาทหลวงจะบอกว่าคามิวโดนจับตัวไปแล้ว ให้เราออกเรือไปถ้ำไวกิ้งทางซ้ายของเครโมรัน
เข้ามาในถ้ำแล้ววิ่งตรงเข้าไปจะพบคามิวโดนจับขังอยู่ จัดการศัตรูให้หมด แล้วคามิวจะบ่นพึมพำว่าเจ้านั่นอยู่ที่นี่ ต้องไปแล้ว แล้วก็เดินจากไป ให้เราวิ่งตามคามิวขึ้นไปด้านบนสุด เปิดประตูเข้าไป พบคามิวยืนกุมขมับ ให้เราสำรวจต้นไม้แล้วจะเห็นภาพในอดีต
ย้อนอดีตครั้งแรก ผู้ชายตัวใหญ่บอก อย่าอู้เดะ คามิวทำท่าไม่พอใจ จนโมโหแล้วบอกว่าเมื่อ 10ปีก่อน เก็บพวกแก 2คนที่หนาวสั่นกลางพายุหิมะมาเลี้ยง จนถึงตอนนี้ลืมบุญคุณไปแล้วหรอ แล้วเราจะได้พบกับน้องสาวคามิวชื่อ มายะ ซึ่งมายะจะบอกเกลียดตาลุงเมื่อกี้ แล้วทั้งคู่ก็โดนตบกบาลออกมา ทั้งคู่ตัดพ้อว่าถ้ามีเงินเยอะกว่านี้ คงไม่ต้องมาทนกับคนพวกนี้ จนอยากจะรวบรวมสมบัติทั้งโลกมาไว้
จบการย้อนอดีตครั้งแรก ให้สำรวจต้นไม้อีกครั้งเป็นการย้อนอดีตรอบ 2 คามิวนำสร้อยเส้นนึงที่ได้จากการออกทะเลมาให้มายะเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด หลังจากที่มายะสวมแล้ว ของที่มายะจับก็กลายเป็นทอง จบการย้อนอดีตครั้งที่ 2
สำรวจต้นไม้อีกครั้ง เพื่อย้อนอดีตรอบ 3 เป็นบ้านของคามิวกับมายะ ทุกอย่างกลายเป็นทองทั้งหมด แม้กระทั่งนกพิราบ ทำให้คามิวโกรธและดุมายะไป ทำให้มายะยอมแพ้และคิดจะเลิกใช้พลังจากสร้อย ซึ่งมายะพยายามจะถอดสร้อยแต่ดันถอดไม่ออก แล้วสร้อยก็เริ่มแสดงคำสาปออกมา คามิวพยายามจะช่วย แต่มีดดันกลายเป็นทองและแหลกสลายไป ทำให้คามิวเกิดความกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ จนในที่สุดมายะกลายเป็นทองโดยสมบูรณ์
จบแล้วเดินออกมาคุยกับคามิว คามิวจะได้ความทรงจำกลับมาทั้งหมดแล้ว คามิวจะรู้สึกผิดกับการที่ตัวเองหนีออกมา และเป็นคนที่เอาสร้อยต้องสาปไปให้มายะในวันเกิด คามิวได้วิ่งหนีความจริงและไม่อยากจะนึกมัน รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นโจรไปซะแล้ว แล้วอยู่มาวันนึงผู้พยากรณ์ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ผู้พยากรณ์ได้บอกว่าให้รวบรวมออร์ป แล้วจะทำให้ได้พบกับผู้กล้า ให้ขอยืมพลังจากผู้กล้าไถ่บาปของตัวเองซะ คามิวบอกปราสาทของคิลเลอร์โกล์ดจะอยู่ใกล้ๆแถวนี้ แล้วเราจะได้คามิวกลับเข้าพวก พร้อมสกิลที่กลับคืนมา (อัพสกิลก่อนด้วยละ) ให้เราเดินขึ้นด้านบนสุด เข้าปราสาททองคำ
ปราสาททองคำชั้น 1 – ตรงเข้าเข้าไปห้องกลาง แล้วขึ้นบันไดทางซ้ายมือ
ชั้น 2 – เดินลงประตูด้านล่างตามทาง แล้วจะอ้อมลงมาที่ชั้น 1 ทางประตูด้านซ้าย
ขั้น 1 – ไปปลดล๊อคประตูตรงทางที่เราเข้ามาไว้ก่อน แล้วเดินอ้อมไปทางด้านซ้ายบน ปลดล๊อคประตูไปเรื่อยๆ แล้วมาปลดล๊อคประตูตรงกลางด้านบน เสร็จแล้วตรงข้างๆประตูนี้จะมีบันไดขึ้นไปชั้น 2
ชั้น 2 – เราจะมาโผล่ด้านบน วิ่งอ้อมไปด้านล่างก่อน ปลดล๊อคประตู แล้วเก็บหีบ เสร็จแล้วกลับมาที่เดิมตรงทางที่เราขึ้นมา ลงบันไดอีกอันข้างๆที่เราขึ้นมา จะลงไปชั้น 1
ชั้น 1 – เราจะมาโผล่บริเวณขวาบน ปลดล๊อคประตูตรงกลางก่อน แล้วอ้อมมาทางขวาล่าง ปลดล๊อคประตูตรงทางเข้า เสร็จแล้วขึ้นบันไดไปชั้น 2
ชั้น 2 – จะมาโผล่บริเวณขวาล่าง เดินขึ้นบันไดไปชั้น 3 ได้เลย
ชั้น 3 – วิ่งไปตามทาง ที่ห้องทางขวาบน จะมีบันไดอยู่ 2อัน บันไดด้านบนคือลงไปปลดล๊อคประตูที่เหลือ แล้วเก็บหีบ ส่วนบันไดที่อยู๋ตรงกลางแมพ คือทางไปห้องบอสที่อยู่ชั้น 4
เมื่อเราเข้าไป ก็พบสิ่งที่เราต้องอึ้ง นั่นคือ มายะ น้องสาวคามิวนั่นเอง แต่มายะปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่มายะอีกต่อไป เธอคือ คิลเลอร์โกล์ด 1ใน6 ขุนพลปีศาจ รวมถึงผู้คนที่ป่วยเป็นทองคำทั้งตัว ทั้งหมดเป็นฝีมือของมายะทั้งสิ้น เธอจะตัดพ้อพี่ชายที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้ แล้วเธอจะเล่าว่าในวันที่ต้นไม้โลกร่วงหล่นลงมา จอมมารอุลโนก้าได้มอบพลังให้ ทำให้เธอกลับกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง แถมยังใช้พลังได้ตามใจนึก แล้วมายะจะแปลงร่างเป็นปีศาจ ส่วนคามิวจะโทษว่าที่มายะเป็นแบบนี้เพราะตัวเองทั้งสิ้น คามิวได้ตัดสินใจที่จะไถ่บาปของตัวเองที่ทำไว้เมื่อ 5ปีก่อน พบบอส คิลเลอร์โกล์ด
เมื่อชนะได้แล้ว มายะจะเริ่มคุมพลังตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างเริ่มกลายเป็นทองหมด พอเราบังคับตัวได้ ให้ไปคุยกับคามิวแล้วตอบข้อแรกไป คามิวที่วิ่งเข้าไปช่วยมายะ จะกลายเป็นทองคำ แล้วมายะจะบอกว่าเธอไม่ต้องการทองคำอีกแล้ว แล้วคำสาปสร้อยคอจะแตกสลายไป ส่วนเราจะได้เยลโล่ออร์ปกลับคืนมา
เราจะพามายะกลับมาที่ห้องพักที่โบสถ์ เมื่อมาข้างนอกสภาพทุกอย่างจะกลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว คามิวจะบอกว่าผู้พยากรณ์พูดถูกทุกอย่าง ถึงเวลาไปลุยจอมมารแล้ว แล้วจะปลดล๊อคสกิลพาเนลใหม่ พร้อมถ้วย
贖罪の果てにตำนานที่ฟื้นคืน
จบเรื่องที่เครโมรันแล้ว ออกไปที่ทุ่งหิมะชิเกสเบียทางด้านขวา 2 แมพ (แมพที่มีหอสมุดนั่นแหละ) แล้วไปทางสถานศักดิ์สิทธิ์รัมด้าทางขวา (แวะแคมป์แล้วเซฟก่อนนะ) ระหว่างทางจะพบกับมังกรปีศาจเนโดร่า ออกมาโจมตี หลังจากชนะแล้ว พวกเราจะเสียท่าให้กับเนโดร่า แต่แล้วก็มีเสียงเพลงมาช่วยผู้กล้าไว้ เซเนียนั่นเอง เธอบอกว่าหลังจากเหตุการณ์นั่น มัวแต่ยุ่งกับการช่วยเหลือผู้คนและชี้นำให้ไปที่รัมด้า จนได้ยินเรื่องภูเขาทองคำปิดทางเข้าออก ก็เลยอยู่ระหว่างเดินทาง แต่ดันมาเจอผู้กล้าซะก่อน ส่วนโรว์จะบอกว่าถ้าไปที่รัมด้าน่าจะพอมีเบาะแสเกี่ยวกับพาหนะของพระเจ้า แล้วเราจะได้เซเนียเข้าเป็นพวก
เดินทางต่อไปให้ถึงรัมด้า จะพบกับรัมด้าที่เละเทะพอสมควร ฟานาร์ดพอเห็นหน้าเซเนียก็ถามว่าแล้วเวโรนิก้าไปไหน ส่วนเซเนียก็นึกว่าเวโรนิก้ามาก่อนหน้าแล้ว แต่เซเนียก็รู้สึกได้ถึงเวโรนิก้าว่าอยู่ทางทิศเหนือใกล้ๆนี้ ให้เราเข้าป่าที่อยู่ด้านซ้ายบนของแผนที่ วิ่งตรงเข้าไปจนมันตัดคัทซีน เซเนียสังเกตุเห็นเวโรนิก้านั่งพิงต้นไม้ ไม่พูดไม่จาแน่นิ่งไป แต่ไม้เท้าของเวโรนิก้ากลับมีปฏิกิริยากับสัญลักษณ์ผู้กล้า เมื่อสัมผัสก็ย้อนอดีตไปช่วงเวลาตอนต้นไม้โลกถล่มลง เราจะได้เห็นการเสียสละของเวโรนิก้าที่สละชีวิตตัวเองเพื่อให้คนอื่นรอดและฝากความหวังในการช่วยโลกไว้ที่พวกเค้า
ตัดกลับมาปัจจุบัน เวโรนิก้าได้สลายร่างไป ในขณะที่ทุกคนกำลังเศร้า เซเนียได้ตัดสินใจแบกรับหน้าที่ของเวโรนิก้าต่อ หลังจากนั้นเซเนียจะชอตัวไปแจ้งข่าวกับทุกคนในรัมด้าก่อน ให้เราวิ่งกลับเข้าเมืองไป ในค่ำคืนนั้นได้มีการจัดพิธีศพให้กับเวโรนิก้า เพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณไปยังต้นไม้แห่งชีวิต ได้ขอเส้นผมของทุกคนเผาไปยังบนไฟแห่งความหวัง ส่วนฟานาร์ดจะเรียกเราไปที่โบสถ์ตรงกลางเมือง
ซึ่งฟานาร์ดจะคุยเรื่องพาหนะของพระเจ้า ซึ่งเห็นในความฝัน แต่ในความฝันนั้นไม่เห็นเวโรนิก้าทำให้เป็นกังวลมาตลอด พอมาวันนี้จึงได้รู้ว่าฝันที่ว่านั้นเป็นจริง ซึ่งฟานาร์ดจะนึกถึงตำนานนึงคือ เคโทส ซึ่งเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่บินอยู่บนฟากฟ้า ตอนนี้ฟานาร์ดกำลังตรวจสอบพวกหนังสือโบราณอยู่ ถ้าได้เรื่องยังไงแล้วจะบอก และบอกให้เราไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน
ออกจากโบสถ์ให้เราไปที่โรงแรมของเมือง คุยกับพนักงานเพื่อพักผ่อน แล้วกลางคืนเราจะได้ยินเสียงเพลงบรรเลง ให้เราเดินไปหาเซเนียที่อยู่ข้างๆโรงแรมนี่แหละ เซเนียจะเล่าว่าเพลงที่ร้องไปเป็นเพลงจากยุคโบราณที่สืบทอดกันมาในรัมด้า เกี่ยวกับการพลัดพรากจากคนรักด้วยความตาย ซึ่งเซเนียได้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว และชอบเพลงนี้มาก แล้วเซเนียจะเล่าย้อนไปตั้งแต่ตอนก่อนขึ้นต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิต ซึ่งเวโรนิก้าได้พูดเป็นลางว่า ถ้าหาตัวเธอเป็นอะไรไป ให้เซเนียมีชีวิตต่อด้วยตัวคนเดียว แต่เซเนียกลับไม่สัญญาเพราะไม่คิดว่าจะต้องแยกจากกัน ตัดกลับมาปัจจุบัน เซเนียรู้สึกเสียใจที่ไม่สัญญาเพื่อให้เวโรนิก้าสบายใจ พร้อมทั้งว่าตัวเองว่าตัวเองจำคาถามเวทย์มนต์ต่างๆก็ไม่ได้ ซึ่งต่างจากเวโรนิก้า
หลังจากเซเนียร้องไห้จนสบายใจแล้ว เซเนียตัดสินใจก้าวต่อไปข้างหน้า แล้วก็ตัดผมตัวเองพร้อมสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว แต่แล้วคฑาของเวโรนิก้าก็มีแสงเกิดขึ้น เหมือนวิญญาณของเวโรนิก้าได้เข้าไปยังร่างของเซเนีย นั่นทำให้เซเนียสามารถใช้เวทย์ของเวโรนิก้าได้ ซึ่งตอนนี้ สกิลพาแนลของเซเนียจะสามารถใช้สกิลของเวโรนิก้าได้ พร้อมพ้อยท์ของเวโรนิก้าด้วย จากนั้นให้เรากลับเข้าไปคุยกับพนักงานเค้าเตอร์ที่โรงแรมเพื่อนอน
รุ่งเช้า เดินลงมาคุยกับเซเนีย เธอจะบอกให้เราไปยอดเขาเซรันด้า ให้เราไปแมพทางขวาล่างของเมือง แล้ววิ่งต่อไปด้านในสุด ฟานาร์ดจะบอกว่าเมื่อคืนฝันเห็นเวโรนิก้ายืนเป่าขลุ่ยอยู่ตรงนี้ จึงได้มอบขลุ่ยให้เซเนียเป่า แต่กลับไม่มีอะไรรเกิดขึ้น แต่พอผู้กล้าจับขลุ่ยนั้น กลับมีปฏิกิริยากลายเป็นคันเบ็ดตกปลา แล้วผู้กล้าก็ตกปลาวาฬขึ้นมาได้ตัวนึง ซึ่งก็คือ เคโทส นั่นเอง หลังจากนี้เราจะบินบนท้องฟ้าได้แล้ว พร้อมถ้วย
よみがえりし伝説จบ -Part 3-
กอบกู้โฮมุระ
กดแผนที่ดู เราจะเห็นเครื่องหมายตกใจอยู่บริเวณขวาบน ให้ไปตรงนั้นแหละ ซึ่งเซเนียจะบอกว่าสถานที่นี้เหมือนกับที่ฟานาร์ดบอกตอนฝัน ให้เราวิ่งเข้าไปด้านในได้เลย แล้วเราจะพบตัวอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งเค้าจะบอกว่าเค้าคือ คนของพระเจ้า ซึ่งพวกเค้าจะคอยเฝ้ามองโลกจากบนฟ้า ที่นี่คือหมู่บ้านของพระเจ้า แต่ว่าพวกขุนพลของจอมมารมาโจมตี ทำให้เกาะลอยฟ้าหล่นไปบนพื้นหมดแล้ว เค้าคือผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย ซึ่งด้านในสุดของที่แห่งนี้มีไฟแห่งความหวังซึ่งลุกไหม้มาตั้งแต่กำเนิดโลกแล้ว ซึ่งเราจะถามพลังที่ช่วยปัดเป่าความมืด แต่เค้าจะไม่รู้เพราะเค้ายังเด็กอยู่ คามิวจะบอกว่าไหนๆก็มาแล้วขอเข้าไปดูไฟแห่งความหวังซะหน่อย
คุยจบแล้วให้เราวิ่งเข้าไปสำรวจที่ไฟตรงกลาง แล้วสัญลักษณ์ผู้กล้าจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เอาไฟแห่งความหวังไปไว้ในตะเกียง แล้วต้นไม้ทั้ง 3 ด้านในจะส่องสว่าง แน่นอนว่าเอาไว้ย้อนอดีตอีกแล้ว
เริ่มจากต้นไม้ทางซ้ายมือ ภาพผู้กล้ารุ่นก่อน รอช ได้แบกหินอะไรซักอย่าง
ต้นไม้ตรงกลาง ภาพที่ซาไมดี้ กลุ่มผู้กล้าได้ถือค้อนอันใหญ่เอาไว้ แต่เราก็ยังไม่รู้อะไรอยู่ดี
ต้นไม้ขวาสุด ภาพผู้กล้าตีอาวุธที่ภูเขาไฟ ซึ่งมัลทีน่าจะวิเคราะห์ว่า ผู้กล้ารวบรวมแร่อะไรซักอย่าง แล้วใช้ค้อนพิเศษตีดาบขึ้นมา แน่นอนว่าดาบเล่มนั้น อุลโนก้า ปล้นไปเป็นดาบของตัวเองเรียบร้อยแล้ว คามิวเลยเสนอว่าถ้างั้น เราก็สร้างดาบของเราเองขึ้นมาใหม่สิ ซึ่งโรว์จะบอกแร่ที่เห็นนั้นเป็นสถานที่บนเกาะลอยฟ้า ถ้าไปถามคนของพระเจ้าคงรู้อะไรบ้างแน่ๆ ซิลเวียจะบอกว่าค้อนในสถานที่นั้นต้องเป็นซาไมดี้แน่ๆ ให้ลองไปถามพระราชาซาไมดี้ดู ส่วนเซเนียบอกว่าสถานที่ที่ตีดาบคือภูเขาไฟที่อยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านโฮมุระ
ตอนนี้เราจะได้ข้อมูลสำหรับตีดาบเล่มใหม่พร้อมแล้ว ให้กลับออกไปคุยกับคนของพระเจ้า ซึ่งจะบอกว่าสถานที่บนเกาะลอยฟ้าที่เห็นนั้นน่าจะเป็น สนามรบโบราณลอยฟ้า ให้เราวิ่งกลับออกไปด้านนอกตรงวงกลม เราจะเปล่าขลุ่ยเรียกเคโทส
ตรงนี้เราจะไปไหนก่อนก็ได้ แต่ผมเลือกไปเอาค้อนก่อน เพราะง่ายสุด ให้เลือกวาร์ปไปที่เมืองซาไมดี้ได้เลย แล้ววิ่งไปคุยกับพระราชาซาไมดี้ แล้วโรว์จะถามเรื่องค้อนใหญ่ๆ ซึ่งเขาจะนึกออกว่านั่นคือ ค้อนไกอา ที่เป็นสมบัติประจำราชวงศ์นั่นเอง แล้วเค้าจะสั่งให้องค์ชายฟาริสไปหยิบค้อนมาให้เรา
ต่อไป เราจะไปเอาแร่ที่สนามรบโบราณลอยฟ้า ให้เลือกใช้ขลุ่ยจากหน้าเมนูไอเทม だいじなもの ชื่อ 天空のフルート แล้วเลือกคำสั่ง つかう จะเป็นการเป่าเรียกเคโทส ให้เราไปที่เกาะลอยฟ้าบริเวณซ้ายล่างของแผนที่ (สังเกตุรูปจะเป็นรูปเกาะลอยๆ)
เมื่อเข้ามาแล้วเราจะใช้ไฟแห่งความหวัง ไล่ความมืดออกไป เริ่มแรก ให้เราลงไปชั้นล่างสุดก่อนคือชั้นที่ 4 ตรงนี้จะมีแคมป์ไฟเป็นเช็คพ้อยท์ (ระหว่างชั้น 1-3 สำรวจกันตามสบาย) จากนั้นไต่เชือกลงไปด้านล่างจะเป็นชั้น 8 เดินๆต่อไปจะกลายเป็นชั้น 9 ให้เราวิ่งไปตรงกลางที่เป็นวงกลม เพื่อขึ้นไปชั้นที่ 6 (ระหว่างนี้ก็สำรวจกันตามสบาย)
ที่ชั้น 6 ไปด้านขวาบนของแผนที่ด้านในสุด เราจะพบแร่ที่เราตามหา ซึ่งคามิวจะบอกว่ามันคือแร่ โอริฮารุก้อน นั่นเอง หลังจากได้แร่แล้ว วาร์ปไปที่หมู่บ้านโฮมุระต่อได้เลย
เมื่อมาถึงแล้ว ให้วิ่งไปบ้านด้านซ้ายบนซึ่งเป็นสำนักของยายาคุ ซึ่งตอนนี้กำลังมีปัญหากันอยู่ ยายาคุจะเล่าว่า เค้าต้องสืบทอดประเพณีด้วยการทำพฺิธีเกี่ยวกับไฟแห่งพระเจ้าอะไรซักอย่างนี่แหละ (คงเหมือนคบเพลิงโอลิมปิก) บนภูเขาไฟฮิโนโนกิ แต่ว่าดันมีปีศาจออกมาขวางทางทำให้เข้าไปทำพิธีไม่ได้ ส่วนยายาคุเองก็บาดเจ็บที่ขาทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก เลยไหว้วานเราให้ช่วยไปจัดการหน่อย ให้ออกจากหมู่บ้านโฮมุระ แล้วไปด้านซ้ายของหมู่บ้าน จะเป็นทางขึ้นไปภูเขาไฟฮิโนโนกิ
พอมาถึงภูเขาไฟฮิโนโนกิ จะพบกับหมอก และสัตว์ประหลาดท่าทางประหลาดๆ ขู่ให้เราหนีไป แต่เราไม่กลัว สุดท้ายสัตว์ประหลาดก็ล้มลงเอง แล้วก็พบว่าเป็นเด็ก 2 คนชื่อ เทบ้า กับ ซากิ พวกเค้าบอกว่าจำเป็นต้องขัดขวางพิธีที่จะเกิดขึ้น ไม่งั้นจะเกิดเรื่องใหญ่แน่ ส่วนรายละเอียดให้ไปคุยในฐานลับของพวกเค้าที่อยู่ทางขวามือ จบการคุยกับเด็ก 2 คน ให้วิ่งไปทางขวามือ แล้วเข้าฐานลับไป
เข้ามาแล้ว เด็กทั้ง 2 จะอธิบายถึงเหตุผลการขัดขวางพิธีกรรมว่า แม่ของเค้าจะโดนบูชายันด้วยการผลักให้ตกลาวา เหตุเพราะเชื่อว่าไปทำให้เทพเจ้าโกรธเพราะว่าดวงอาทิตย์ไม่ขึ้น หมู่บ้านจะต้องตกอยู่ในทะเลพลิง แต่แท้จริงแล้วมันเป็นช่วงที่จอมมารถือกำเนิดต่างหาก ส่วนสาเหตุที่เลือกแม่ของเด็ก 2คนนี้เพราะว่าในช่วงพิธีที่ห้ามคนนอกขึ้น แม่ของเค้าดันไปเห็นบางอย่าง และโดนสั่งว่าถ้าพูดออกไปจะถูกเอาไปบูชายัน เค้าเชื่อว่าด้านในต้องมีอะไรซักอย่างแน่ แต่เค้าไม่สามารถจะไปตรวจสอบได้ โรว์จะเสนอว่าให้เราเข้าไปดูซักหน่อย แล้วให้เราขึ้นบันไดด้านในสุดของฐานลับนี้ไป
เมื่อขึ้นบันไดมาแล้วให้เราวิ่งเข้าไปด้านในสุด เราจะพบความลับที่ยายาคุซ่อนไว้ คือมังกรไฟกินคน ซึ่งคนในหมู่บ้านเชื่อกันว่ามังกรไฟกินคนถูกยายาคุกำจัดไปแล้ว เทบ้าบอกว่าการมีอยู่ของเจ้านี่ทำให้แม่ของเค้าต้องถูกบูชายัน แถมยายาคุกำลังหลอกทุกคนอยู่ แล้วเทบ้าจะกลับหมู่บ้านไปแจ้งข่าว ให้เราวาร์ปกลับไปที่หมู่บ้านโฮมุระ
ให้เรากลับไปที่สำนักยายาคุ เทบ้าจะกลับไปแจ้งข่าวเรื่องมังกรไฟกินคนยังมีชีวิตอยู่ ยายาคุสงสัยว่าเทบ้าเข้าไปได้ยังไง ก็มีสัตว์ประหลาดขวางอยู่ไม่ใช่หรอ เทบ้าจึงเฉลยว่าสัตว์ประหลาดนั่นคือเค้าเองต่างหาก ซึ่งยายาคุเอาชนะมังกรไม่ได้ เลยจะเอาชาวบ้านไปเป็นเหยื่อให้กับมังกร เพื่อปกป้องตัวเอง แต่ยายาคุก็ยังแถสีข้างถลอกต่อว่าฮาริมะลูกชายของเธอเสียชีวิตไปในระหว่างสู้กับมังกรเอง ในระหว่างการแถก็จะได้ยินเสียงคำรามจากข้างนอก ให้เราเดินออกไปดูจะพบมังกรไฟบินเข้ามา ชาวบ้านเข้าไปโจมตีใส่มังกรไฟ แต่ยายาคุมาขวางซะก่อน ซึ่งยายาคุยอมให้มังกรไฟกินแต่โดยดี
เทบ้าจะขอร้องให้เราช่วยจัดการมังกรไฟ วิ่งลงไปข้างล่าง เข้าไปสู้กับมังกรไฟโลด (จะอ้อมไปเซฟก่อนได้นะ) พอชนะแล้ว มังกรไฟจะบินหนีไป ส่วนพวกเราก็จะสงสัยว่าทำไมยายาคุถึงเอาตัวเข้าปกป้องมังกรไฟ ส่วนเทบ้าจะบอกให้เราไปจัดการมังกรไฟ แต่เราต้องไปเอากุญแจที่สำนักยายาคุซะก่อน
วิ่งกลับไปที่สำนักยายาคุ เข้าห้องที่อยู่ด้านในสุด จะพบป้าคนนึง เค้าจะมอบกุญแจให้เราเพราะเก็บไปก็ไม่มีค่าอะไร พร้อมทั้งยื่นสมุดบันทึกให้เราอ่าน ในสมุดนั่นเล่าว่า ยายาคุกับลูกชายฮาริมะ ไปปราบมังกร แต่ฮาริมะโดนคำสาปของมังกร ทำให้ร่างกายเปลี่ยนไปเป็นมังกร ซึ่งยายาคุกลัวว่าถ้าชาวบ้านรู้เรื่องฮาริมะต้องโดนฆ่าแน่ จึงได้เอาตัวฮาริมะไปซ่อน แล้วโกหกเรื่องฮาริมะเสียชีวิตในขณะสู้กับมังกร ส่วนยายาคุก็หาวิธีที่ทำให้ฮาริมะกลับเป็นคนอีกครั้ง นั่นคือ กระจกแห่งความจริง แต่ปัญหาคือกระจกไม่มีการตอบสนองใดๆ ซึ่งยายาคุก็ได้เก็บกระจกไว้กับตัวจนกว่าจะถึงวันที่ตัวเองใช้ได้ ซึ่งตอนนี้ยายาคุโดนกินไปพร้อมกระจกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จบแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปที่ภูเขาไฟฮิโนโนกิอีกรอบ คราวนี้ให้ตรงขึ้นไปด้นบนใช้กุญแจที่ได้มาไขเข้าไป แล้วเข้าดันเจี้ยนภูเขาไฟที่เราเจออันแรกไป (ประตูด้านบนสุดยังเข้าไม่ได้นะ ใจเย็น)
ในดันเจี้ยนภูเขาไฟจะมี 2 ชั้น ง่ายมากลงไปชั้นล่างทางขวาล่าง ไปหามอนสเตอร์ที่ขี่ได้ แล้ววิ่งไล่เก็บสมบัติ แล้วเข้าไปด้านในสุดของดันเจี้ยน จะพบบอส มังกรไฟกินคน
เมื่อจัดการได้แล้ว กระจกแห่งความจริงในท้องของมังกรจะเปล่งแสงออกมา และมังกรไฟจะกลับสู่ร่างของฮาริมะอีกครั้ง ฮาริมะจะขอบคุณและบอกว่าคำสาปของมังกรนั้นแข็งแกร่งจนพลังของกระจกไม่สามารถส่องจากด้านนอกไปถึงได้ แต่เพราะพวกเราทำให้มังกรไฟอ่อนแอลง และใช้กระจกจากด้านใน ทำให้ทำลายคำสาปลงได้ ฮาริมะได้ฝากคำสั่งเสียถึงยายาคุว่าสามารถช่วยโฮมุระได้แล้ว และขอให้อยู่อย่างมีความสุข ก่อนที่ร่างจะหายและกลายเป็นกระจกไป ส่วนเทบ้าจะยอมยกโทษให้ยายาคุ เพราะที่ทำไปก็เพื่อครอบครัวเหมือนกับเค้า หลังจากนั้นเราจะกลับหมู่บ้านและบอกเรื่องราวทั้งหมด ยกเว้นเรื่องคำสาปมังกร ชาวบ้านจะรู้สึกว่าถูกยายาคุหักหลังจนคอตกกันหมด แต่เทบ้าจะออกมาพูดว่าถ้าไม่มียายาคุ ป่านนี้มังกรไฟคงทำลายหมู่บ้านไม่เหลือซากแล้ว ถึงแม้จะไม่น่าให้อภัย แต่สิ่งที่ยายาคุทำไว้มันได้ทำลายข้อผูกมัดเรื่องความเชื่อเทพเจ้าทิ้งทั้งหมด แล้วถ้วย