8/10

การ์ตูนอมตะ ที่ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้อย่างกลมกลืน

จริงๆแล้วตัวผมเองไม่ใช่แฟนการ์ตูนเจ้าแมวสีฟ้าซักเท่าไหร่ เพราะชอบแนวจริงจังซีเรียสซะมากกว่า แม้ตอนเด็กจะดูจากช่อง 9 มาหลายปีก็ตาม แต่เนื่องจากมีเพื่อนถูกรางวัลจนได้บัตรสื่อเข้าไปดู ซึ่งแม้เราจะไม่ใช่แฟนการ์ตูน แต่ก็ดูได้หมดถ้ามันฟรี !! ต้องขอขอบคุณคุณเพื่อนที่ถูกรางวัล และ ผู้จัดกิจกรรมดีๆอย่าง Kmagic by Kantana ครับ

อย่างที่บอกว่าโดราเอม่อนมันเป็นการ์ตูนเด็ก แน่นอนว่าเนื้อเรื่องมันเป็นสูตรสำเร็จที่เด็กดูต้องไม่ร้องไห้ และได้ข้อคิดอะไรดีๆกลับไป เพราะฉะนั้นเรื่องเดาตอนจบคงไม่ต้องพูดถึง…และนี่คิดสิ่งที่ผมคิดไว้ก่อนจะเข้าไปดู

เรื่องราวของเด็กป.4 ที่เรียนมา 40ปียังไม่โต นำแสดงโดย โนบิตะ ชิซุกะ ซูนิโอะ ไจแอ้นท์ และเจ้าแมวหุ่นยนต์สีฟ้า พร้อมเพื่อนต่างดาวอีก 1 ตัวคือ อารอน ที่เป็นตัวละครหลักๆ ในช่วงที่การ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่กำลังบูม พวกโนบิตะเองก็อยากเป็นฮีโร่เท่ๆบ้าง เลยเล่นถ่ายหนังกันพร้อมของวิเศษของโดราเอม่อน แล้วจู่ๆอารอนก็มาเห็นตอนพวกนี้มันถ่ายหนังกัน เลยนึกว่าเก่งจริงๆ เลยไปขอความช่วยเหลือให้ช่วยดาวพุคคุรุให้รอดพ้นจากเงื้อมมือโจรสลัด ส่วนกลุ่มโนบิตะก็นึกว่าเป็นการถ่ายหนัง ก็เลยเนียนเล่นไปตามบทฮีโร่โดยไม่รู้ว่านี่มันคือของจริง !!

อย่างที่คิดไว้ว่านี่คงเป็นงานสูตรสำเร็จแหละ เพราะไม่อย่างงั้นเดี๋ยวเด็กร้องไห้ แม้จะคิดแบบนี้ แต่ตัวผมค่อยๆโดนหนังมันดูดกลืนเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ต้องมาคอยลุ้นว่าการแสดงบทฮีโร่แบบปลอมๆนั้นมันจะสู้พวกโจรสลัดของจริงได้แค่ไหน ต้องมานั่งลุ้นว่ามันจะจัดการสถานการณ์เฉพาะหน้าพวกนี้ยังไง อีกทั้งหนังยังมีมุขฮาๆเข้ามาแทรก แม้มันจะไม่เยอะ แต่มันก็ทำให้ฮาได้ทั้งโรงเหมือนกัน

ด้านงานภาพ ผมไม่เคยดูมูฟวี่ของม่อนภาคก่อนๆ เลยไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่ภาคนี้ไม่มีคำว่าตกยุคสมัย การคงความคลาสสิคของลายเส้นมันปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้อย่างลงตัว ทั้งตัวละคร ฉาก หรือ เอฟเฟค บ่งบอกถึงความตั้งใจและฝีมือของผู้สร้างเป็นอย่างมาก ที่ทำได้สมกับเป็นปี 2015 (อ่านไม่ผิดหรอกครับ)

ด้านงานพากษ์ รอบสื่อที่ได้ดูนั้นเป็นพากษ์ไทย ฟังแล้วลื่นหูไม่มีติดขัด การพากษ์ตัวละครเด็กไม่แสบแก้วหูเหมือนเรื่องบางเรื่อง ดูได้ไม่ต้องห่วง

สรุป โดราเอม่อน เด็กดูดี ผู้ใหญ่ก็ดูได้ หนังสนุก มีอะไรให้ลุ้นๆบ้างที่มากกว่าคำว่าสูตรสำเร็จตายตัว มีมุขฮาๆบ้าง อยากให้ลองเอาคำว่าการ์ตูนเด็กออกไปจากหัว ปล่อยวางสิ่งต่างๆ วางความเป็นผู้ใหญ่ทิ้ง ปล่อยให้หนังมันค่อยๆดูดกลืนเราเข้าไป แม้การ์ตูนจะมีอายุมากกว่า 40ปี แต่ไม่มีคำว่าเชย เพราะความคลาสสิคอยู่ร่วมกับยุคสมัยใหม่ได้ถ้ารู้จักปรับตัว และนี่คือตัวอย่างที่ดี

(Visited 241 times, 1 visits today)