Link
Royal Arm
-อาวุธของราชาทั้ง 13 โดยเราจะได้จากเนื้อเรื่องทั้งหมด 7 ชิ้น และต้องรวบรวมเองทั้งหมด 6 ชิ้น
-ชิ้นนี้น่าจะง่ายที่สุด เพราะสามารถตรงเข้าไปหยิบได้เลย ให้ขับรถไปที่ Thummels Glade (ต้องมาร์คจุดเอาเองนะ ไม่มีที่จอดรถ) แล้ววิ่งเข้าไปเก็บตรงๆได้เลย
-อาวุธชิ้นนี้จะอยู่ในดันเจี้ยน ซึ่งศัตรูมี lv อยู่ที่ราวๆ 28-32 ควร lv 30 อย่างน้อยค่อยมา -ในดันเจี้ยนนี้ มีเควสถ่ายภาพของ Vyv อยู่ด้วย ให้ไปทำเควสจนได้ถ่ายภาพภูเขาไฟในนี้ก่อน จะได้เดินทีเดียว -เราจะต้องลุยดันเจี้ยน The Rock of Ravatogh ให้เราขับรถไปจอดที่ Verinas Mart – Ravatogh แล้วไปถามข้อมูลจากร้านอาหาร จะได้จุดจอดรถใกล้ๆ เยื้องๆกับดันเจี้ยน ชื่อ The Rock of Ravatogh แล้วค่อยเดินต่อเอาเอง 
-ต้องลุยดันเจี้ยน Malmalam Thicket ศัตรูในนี้จะมี lv เฉลี่ยอยู่ราวๆ 32-37 จึงแนะนำว่าควรอย่างน้อย 35ก่อน แล้วค่อยมา -ในนี้จะมีเควสของ Sania ที่วิจัยกบ เป็นเควสต่อจากการหากบเหลือง ให้เราไปฆ่ากบยักษ์ ซึ่งมันอยู่ในนี้ หากใครหลงทาง ก็รับเควสนี้ก็จะมาเจอดันเจี้ยนนี้ได้ไม่ยาก
-ดันเจี้ยนนี้จะปลดล๊อคทางได้ ต้องเล่นจนถึง Chapter 7 ซะก่อน โดยจะอยู่มุมซ้ายบนสุดของแผนที่โลก จุดจอดรถ The Vesperpool ถ้าเล่นถึง Chapter 7 ยังไงก็ผ่าน สังเกตดันเจี้ยนสีแดงทางซ้ายตามรุป -ในดันเจี้ยนนี้จะมีเควสของ Dino ที่ชอบให้เราไล่ไปขุดหาเพชรประจำ และเควสของ Sania ที่ให้เรามาหากบ รอบนี้จะให้หาหิ่งห้อยแทน ซึ่งตอนมาตอนกลางคืนเท่านั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลา แนะนำให้ทำจนเควสชี้มาตรงนี้ก่อน จะได้ทำทีเดียวเลย
ดันเจี้ยนเหมือง มาได้ตั้งแต่แชปแรกเลย ศัตรูด้านในจะเป็นแค่ก๊อบลิน lv 7 ทั้งหมด ยกเว้นแค่บอสซามูไรเท่านั้นที่ lv 50 (แต่ก็แนะนำให้ lv50 แล้วค่อยมาดีกว่า) ซึ่งบอสซามุไรตัวนี้ไม่มีอะไรเลย แค่รอเค้าเตอร์อย่างเดียวก็ตายแล้ว (แต่ต้องไวนิดนึง บางท่าปุ่มมันไว) วิธีวิ่งดันเจี้ยนนี้ ให้เราลงไปที่ชั้น 2 ตรงรางรถไฟ เราจะเจออีเว้นท์บอสซามูไรฟันเราร่วงไปด้านล่าง พร้อมเจอฝูงก๊อบลินล้อม จัดการให้หมด แล้ววิ่งลงชั้น 4 ไปเปิดประตูลูกกรงด้านหลังไว้ก่อน (ก๊อบลินมันแกล้งล๊อค) แล้ววิ่งไปตีบอสได้เลย ส่วนห้องอาวุธให้เดินขึ้นบันไดบริเวณที่สู้บอส จนถึงบันไดลิงให้ปีน อย่าพึ่งปีน ชั้นนั้นจะมีช่องแคบๆที่ไม่มีบอกในแผนที่อยุ่ สามารถลอดเข้าไปได้ ก็จะพบกับอาวุธราชาอีกชิ้น
นี่น่าจะเป็นดันเจี้ยนที่ยากที่สุดแล้วสำหรับการไปเอาอาวุธราชาชิ้นสุดท้าย lv ขั้นต่ำที่ควรมาคือ 55 ถ้าเป็นไปได้สูงกว่านี้ก็ดี สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเข้าคือ Elixir จำนวนมาก และเวทย์สำหรับยิงแรงๆอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะเวทย์ไฟ เพราะในช่วงหลังจำเป็นมาก ควรตุน stock ไว้ก่อนจะดีกว่า **ดันเจี้ยนนี้มีเควสของดิโน่ ชี้มาที่นี่ ให้ไปดูหน้า side quest สำหรับทำเควสก่อนหน้านี้ **คำแนะนำ ควรไปกินอาหารเพิ่ม exp ราคา 8000กิล ที่อัลทิเซียก่อน เพราะมันมีคุณสมบัติคือ null ไฟ น้ำแข็ง สายฟ้า ทำให้เราสามารถป้องกันบอมสายฟ้าในดันเจี้ยนนี้ได้ **ดันเจี้ยนนี้ต้องเข้าตอนกลางคืนเท่านั้น ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น(ตอนตี4) ไม่อย่างงั้นทางเข้าจะไม่เปิด -ตัวระเบิดไฟฟ้า มันจะแพ้ไฟ ถ้าเจอให้รีบยิงเวทย์ไฟเลย ก่อนที่มันจะทำลายล้างปาร์ตี้เราจนพินาศ -ตรงนี้เป็นส่วนที่ยากที่สุดของดันเจี้ยนนี้ เมื่อลงมาแล้ว เราจะต้องไปกดสวิตซ์ที่พื้นตามเลข เรียงไป 1 2 3 4 โดยทุกครั้งเราจะลงไปยังห้องด้านล่าง และมีศัตรูโผล่ และที่เลวร้ายที่สุดคือ ครั้งที่มียักษ์แดงออกมา 3 ตัว และงู 1ตัว โดยงูจะแพ้สายฟ้า ส่วนยักษ์แดงไม่แพ้อะไรเลย แต่ยิงเวทย์เข้า (ธาตุอะไรก็ได้) เพราะฉะนั้นให้ระดมยิงเวทย์เข้าไป ถ้าโชคดีก็จะได้รามูมาช่วยไว้ แต่ถ้าโชคไม่ดีก็หนีแล้วยิงเวทย์ตอดยักษ์แดงไปเรื่อยๆ -เมื่อวน 1 2 3 จนครบแล้ว ถึงสวิตซ์อันที่ 4 สังเกตดูที่ภาพ เมื่อไปถึงจุดๆนึงจะมีทางแยก อย่าไปสับสวิตซ์ไปผิดแยก ไม่งั้นจะต้องร่วงลงชั้นล่าง ไปสู้ยักษ์แดง 3 และ งู 1 อีกรอบ ให้วิ่งไปตามทางเส้นสีเหลืองที่ขีดไว้ให้ ก็จะไปถึงห้องบอสได้ และเมื่อชนะแล้วก็จะอาวุธราชาชิ้นสุดท้าย (น่าจะสุดท้ายแหละ เพราะยากที่สุด)
Regalia Type-F
-หลังจากที่เราจบเกมมาแล้ว เราจะเห็นเควสโผล่ขึ้นมาด้านบนของ Hammerhead (ถ้าใครจำเควสถ่ายรูปของ Vyv ได้ จะมีเควสนึงให้มาถ่ายรุปของทหารจักรวรรดิ 3ที่ และนี่คือ 1ใน3ของที่นั่น) Side Quest – Formouth Garrison -ให้เราขับรถไปหน้าฐานจักรวรรดิ แล้วเราจะได้เควสนี้เอง -วิ่งขึ้นไปด้านบนดูลาดเลา แล้วอิกนิสจะบอกให้รอกลางคืน แล้วเกมจะถามว่าพร้อมลุยไหม พร้อมก็ไปโลด -เข้ามาของยังไม่ต้องรีบเก็บของ เพราะจบเควสแล้วจะวิ่งเล่นได้ ให้ถล่มฐานให้เรียบ ฆ่าศัตรูทุกตัว มากิเทคทั้งหมด แล้วไปเก็บเครื่องฉายไฟที่ด้านบนหอสังเกตุการณ์ (ตรงไหนจำไม่ได้เหมือนกัน วาร์ปมาแล้วเจอพอดี) -หลังจากจบเควสแล้ว วิ่งย้อนกลับเข้ามาใหม่ จะวิ่งเล่นได้แล้ว -จุดเก็บของเท่าที่หามาได้ แนะนำเก็บ Magitek Shield กับ Drillbreaker -เสร็จแล้วนำของกลับไปให้ซิดนี่ที่ Hammerhead เพื่ออัพเกรดรถเป็น Regalia Type-F ข้อดีนอกจากบินได้แล้ว เวลาวิ่งปกติจะไวขึ้น และน้ำมันไม่มีวันหมด
Dungeon
-ดันเจี้ยนนี้ lv เฉลี่ยที่ 30 ก็เข้ามาเคลียร์ได้แล้ว เป็นดันเจี้ยนนอกเนื้อเรื่องและไม่มีเควสไหนชี้มาทีนี่ มันอยู่แถบด้านล่างๆ และเป็น 1 ในดันเจี้ยนนอกเนื้อเรื่องที่ต้องเคลียร์ เพื่อรับเควสเอากุญแจไขประตูที่ล๊อคตามดันเจี้ยนอีกด้วย สถานที่จะอยู่แถวๆด้านล่างของ map ลองหาๆดูตามรูป -ของที่น่าสนใจในนี้ ถ้าเข้ามาช่วง lv 30 กว่าๆก็จะมี Assassin’s Dagger ,Hardedge และ Moggle Charm ที่จะทำให้ Exp+20% เฉพาะคนที่ใส่ และเป็นชิ้นแรกที่สามารถเก็บได้ในช่วงแรกๆด้วย -ประตูล๊อค ไม่มีทางขึ้นไปได้เลย ต้องอาศัยตอนสู้กับบอส แล้ว warp point ขึ้นไปเตะบันไดแทน
-ดันเจี้ยนท่อระบายน้ำ เนื่องจาก Boss ที่นี่ lv 50 และค่อนข้างเก่งระดับนึง จึงควรมี lv 50 เป็นอย่างน้อยแล้วค่อยมา และก่อนจะเข้ามาที่นี่ สิ่งที่ควรทำ 2 อย่างคือ ให้ไปรับเควสของซิดนี่ ซึ่งเควสสุดท้ายของเธอนั้นจะชี้มาที่ท่อระบายน้ำแห่งนี้ และอีกอย่างคือ ให้ไปรับ Hunt Quest : Serpent of the Abyss ที่ร้านอาหารใน Hammerhead จะได้ทำทีเดียวไปเลย -วิธีผ่านดันเจี้ยนนี้ เราต้องไปเปิดสวิตซ์ทั้ง 4 จุดก่อน แล้วถึงสามารถไปห้องบอสจากชั้น B7F ได้ ให้ดูเครื่องหมายถูกในแผนที่เอา -เผื่อใครขี้เกียจหา สวิตซ์จะอยู่ที่ชั้น B2F (ทางเข้า) 2จุด (อีกจุดตรงตัว (A) มันซ้อนกับบันไดอยู่) ชั้น B3F 1จุด และ B4F อีก 1จุด
-นี่คงเป็นดันเจี้ยนที่ชวนปวดหัวและชวนให้หัวร้อนที่สุดในเกม Pitioss นั้นเป็นดันเจี้ยนลับ ที่ไม่มีการบังคับว่าจะต้องเคลียร์เพื่อทำเควสหรือเอาถ้วยอะไรต่อ ใครที่ความอดทนไม่พอหรือขี้เกียจ ก็สามารถข้ามมันไปได้เลย -สิ่งที่น่าสนใจในดันเจี้ยนนี้ก็จะมี Magic Flask , Moogle Charm และของรางวัลสำหรับการเคลียร์คือ Black Hood ใส่แล้วน๊อคติสจะหลบอัตโนมัติ (ยกเว้นตอนฟัน จะไม่แคนเซิลแอคชั่นเพื่อหลบ) -ดันเจี้ยนนี้จำเป็นต้องใช้ Regalia Type-F บินเข้าไปจอดแถวๆด้านบนของดันเจี้ยน Rock of Ravatogh สังเกตเส้นสีเหลืองและไอค่อนรูปรถตามรูป ให้แลนดิ้นลงตรงนั้น (ควรซ่อมรถกับซิดนี่ให้เรียบร้อย ไม่งั้นอาจระเบิดได้) -ดันเจี้ยนนี้จะไม่มีศัตรูแม้แต่ตัวเดียว จะต้องเข้าตอนกลางคืนเท่านั้น และน๊อคติสเข้าได้แค่คนเดียว ทางจะเป็นทางกวนประสาทให้เรากระโดดไปกระโดดมา และค่อนข้างยาวมาก ไม่มีเซฟในดันเจี้ยน ควรมีเวลาอย่างน้อยๆซัก 3-4 ชม. สำหรับเล่นต่อเนื่อง และหลังจากเคลียร์ดันเจี้ยนแล้ว ควรเซฟให้ไวที่สุด เผื่อแลนดิ้งเรกาเลียแล้วเกิดระเบิดขึ้นมาละก็.. **ช่วงนาทีที่ 25.10 ทางที่ต้องกระโดดจะเป็นด้านหลังข้างบน จะมีพื้นให้โดดอยู่ในคลิปจะมองไม่ทัน -ประดับ Moogle Charm จะอยู่ในห้องที่เป็นกำแพงหัวกะโหลกเลื่อนไปเลื่อนมาด้านบนสุด
Lock Door
-เงื่อนไขในการไขประตูที่ล๊อคอยู่ตามดันเจี้ยนนั้น คือ 1.ต้องจบเกมก่อน 2.เคลียร์ดันเจี้ยนนอกเนื้อเรื่องอีก 4 ดันตามนี้ (รายละเอียดดูในหัวข้อ Dungeon เอานะ) 3.หลังจากเคลียร์ทั้งหมดนี่แล้ว ให้ขับรถไปที่ Meldacia Hunter HQ มันจะอยู่ด้านขวาของ Vesperpool ไปคุยกับ Ezma ที่นั่งบนเก้าอี้แล้วเธอจะให้กุญแจมา หลังจากนี้ก็จะเข้าได้ทุกประตุที่ล๊อคแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเข้าดันเจี้ยน คือควรปั้ม lv99 ไว้ก่อนก็ดี เพราะการต่อสู้ด้านในประตูล๊อคนั้น ค่อนข้างยาวมากๆ ใช้เวลาราวๆ 1ชม.ครึ่ง กว่าจะเคลียร์ได้ ระหว่างนั้นจะมีแคมป์ไฟให้พักกลางทาง 1 จุด และควรพกยาทุกขนานไว้เยอะๆ และเตรียมเวทย์ไว้พอประมาณ เพราะบางทีมีสไลม์กันฟิสิกซ์ทุกชนิด ต้องยิงเวทย์เท่านั้น (ใช้แหวนลูซิสแล้วกดหลบแทนได้นะ กรณีเวทย์หมด) List ดันเจี้ยน และ lv และสิ่งที่ควรเตรียมตัว Keycatrich Trench Dungeon – Level 55 -ดันเจี้ยนนี้ง่ายๆ และไม่ยาว ประมาณ 40 นาทีก็จบ ศัตรูสามารถฟันปกติได้ทุกตัว มีแคมป์ไฟให้พักเซฟ 1 จุด Fociaugh Hollow Dungeon – Level 65 Greyshire Glacial Grotto Dungeon – Level 65 Daurell Caverns Dungeon – Level 72 -ดันเจี้ยนนี้ค่อนข้างยาว ใช้เวลาเล่นราวๆ 1ชม.ครึ่ง และมีแคมป์ไฟให้พัก 1 จุด ดันเจี้ยนนี้มีสไลม์ที่ไม่สามารถฟันปกติได้ ต้องใช้เวทย์ เราสามารถสวมแหวนลูซิสแล้วกดสี่เหลี่ยมเพื่อหลบได้ เป็นการโจมตีด้วยเวทย์แบบนึง หรือจะพกเวทย์มาเยอะๆ แล้วเข้ามายิงเลยได้ ศัตรูค่อนข้างอัดแรง ควรเตรียมยาไว้จำนวนนึง Balouve Mines Dungeon – Level 78 -ดันเจี้ยนนี้สั้นๆง่ายๆ ใช้เวลาไม่เกิน 1ชม. และมีแคมป์ไฟ 1 จุด แต่ก็ควรเตรียมยาไว้จำนวนนึง (จำไม่ได้มีสไลม์ที่ฟันไม่ได้หรือเปล่า) Steyliff Grove Dungeon – Level 86 -ควรเตรียมยาให้พร้อม เพราะดันเจี้ยนนี้ยาวมากกกกกกกกกก กว่าจะเคลียร์ได้ใช้เวลาประมาณ 4ชม. (เห็นว่ามีถึง 100ชั้น) มีจุดแคมป์ไฟให้เซฟประมาณ 9 จุด ระหว่างชั้นก็จะมีสไลม์ที่ฟันไม่เข้ายิงเวทย์อย่างเดียว โรนิน ซามูไรที่มีท่า sudden death และแก๊งที่โคตรเกลียดที่สุดคือ แก๊งทอนเบอรี่ เยอะมากกกกกกกก ทอนเบอรี่มีไม่รู้กี่สิบตัว รู้แต่มีหลายชั้นจนเกลียดมันไปแล้ว เตรียม Elixer ไปเยอะๆ เพราะมันแทงทีก็เกือบตาย max hp ลดอีก Crestholm Channels Dungeon – Level 92 Costlemark Tower Dungeon – Level 99
วิธี Craft เวทย์มนต์ เจ๋งๆ(ยังไม่เสร็จ)
ใน End Game content นั้น ศัตรูระดับบอสค่อนข้างอึดพอสมควร บางตัวมันแพ้เวทย์ แถมกันฟิสิกซ์อีก ตีไม่ค่อยเข้า โดยเฉพาะบอส lv 120 ที่เราต้องไปทำอาวุธ โดนทีเดียวตายอนาถ ขอแนะนำเวทย์เจ๋งๆใช้ต่อกรกับพวกบอสอึดๆเหล่านี้ Limit Break Magic ขอเริ่มอย่างแรกที่แนะนำเลย เวทย์ที่จะทำให้คุณยิงทะลุ 9999 ไปที่ 99999 ซึ่งของที่จะใช้ผสม Break Limit Damage นั้น มีหลายชิ้นอยู่ แต่มีชิ้นนึงชื่อว่า Zu Beak ถ้าดรอป ก็จะได้ทีละ 3ชิ้น มีวิธีฟาร์มง่ายๆอยู่ แถมไวด้วย (เสียเวลาแค่โหลด) 1.ขั้นแรก ให้เอารถไปจอดที่ CLEIGNE: Verinas Mart – Ravatogh 2.รับ Hunt Quest จากเข้าของร้าน ฆ่า Zu lv67 3.วิ่งเข้าไปในดันเจี้ยน Ravatogh แล้วนอนแคมป์ที่นั่นก่อน 1 ที เพื่อเอาไว้วาร์ป 4.วิ่งไปฆ่า Zu โดยให้เราวาร์ปตีปากมันรัวๆ (ต้องเล็งที่ปากนะ) ไม่กี่ทีมันจะล้ม จังหวะที่มันล้มนี่แหละ ให้เราเล็งฟันที่ปากมันฟันธรรมดาก็พอ รัวๆไปเลย แปปเดียวตาย แล้วจะ drop zu beak 3ชิ้น (โอกาสดรอปไม่ 100%) 5.ปุ่ม R3 เข้าหน้าแผนที่ เลือกวาร์ปไปที่ทางออก แล้ววาร์ปกลับไปที่รถเพื่อส่งเควส แล้วรับเควสใหม่ 6.เลือกวาร์ปกลับไปที่ Rest point เพื่อฟาร์มต่อ แล้ววนลูปเอา การคราฟเวทย์ด้วย Zu Beak แล้วแต่เราจะพอใจว่าจะใส่ไปกี่ชิ้น แต่ยิ่งใส่เยอะ นอกจากจะยิ่งแรงแล้ว ยังยิ่งเพิ่มจำนวนเวทย์ต่อครั้งที่ใช้ได้ด้วย ลองใส่ดูตามที่เราพอใจแล้วกัน สุดท้าย การใช้สกิล limit break ไม่ได้มีแค่ zu beak เท่านั้น ยังมีชิ้นอื่นด้วย แต่ชิ้นนี้นับว่าฟาร์มง่ายที่สุดแล้ว Tri Cast Tri Cast คือการยิงเวทย์ 3 ครั้งติด (ยิงทีเดียว แต่ดาเมจขึ้น 3 ฮิต) ซึ่งจะมีตั้งแต่ 2 3 4 5ครั้ง แต่4 5ฮิตนั้น ของที่ต้องใช้ฟาร์มเป็นของระดับสูง ถ้าจะเสียเวลาฟาร์ม สู้ไปฟาร์ม Zu Beak เอา limit break ยังดีซะกว่า แต่สำหรับ Tri Cast นั้นไม่ต้องเสียเวลาฟาร์มอะไรทั้งนั้น เพราะของที่แนะนำในการทำ มีราคาเพียง 50 gil เท่านั้น มันคือ sweet pepper ของที่ใช้ทำอาหารนั่นเอง ซี่งของชิ้นนี้หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปที่ไหนก็ได้ มีแทบทุกที่ ใส่ไปอันเดียวขำๆ ไว้ยิงเล่นก็พอแล้ว Healing Cast Healing Cast คือการยิงเวทย์แล้วฮีลเฉพาะตัวเอง แต่ที่เอามาแนะนำเพราะว่า มันสามารถฮีล max hp จนเต็มได้ด้วย และมีดันเจี้ยนที่ไม่สามารถใช้ item ได้อยู่ จึงอยากแนะนำอันนี้ไว้ใช้ฮีลแทนระหว่างดันเจี้ยนนั้น วัตถุดิก็ถูกๆ ถูกกว่า Elixer อีก แต่ถ้าจะเอา lv 99 ต้องใช้ถึง 4 อัน (แพงกว่าละ) มันคือ Lucian Tomato ในราคา 200gil ใส่ไปอันเดียวได้ heal lv30 เลย
Food
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ IGN
Recipe สำหรับทำอาหารมีทั้งหมด 3 แบบ และ ไปดูคนอื่นกินอีกแบบ
1.Iron Shelf Recipes ซื้อได้ตามร้านค้าสถานที่ต่างๆ มีทั้งหมด 7 Vol
2.Orienteering Checkpoints เป็นโปสเตอร์แปะตามผนัง มีทั้งหมด 7แผ่น (A-G)
3.Oric’s Culinary Chronicles เป็นหนังสือ วางอยู่ตามที่ต่างห มีทั้งหมด 8Entry
Magazine จะมี 2 เล่ม เอาไว้ปลดล๊อค 2 เมนู เมนูแรก No.66 Royal Road Paella ให้ขับรถไปจอดที่ Coernix Staition – Cauthess แล้วขับต่อไปทางตะวันออกอีกนิด มันจะอยู่บนโต๊ะในบ้านเล็กๆ เมนูที่ 2 No.82 Hearty Cutlet on Rice ให้ขับรถไปจอดที่ Vesperpool แล้วขับย้อนมาหน่อยนึง มันจะอยู่ใต้สะพาน จากหีบสมบัติในแผนที่ วิ่งเลาะไปนิดเดียวก็จะเจอเลย
No.30 Cannedwich ขับรถไปที่ Leide: Prairie Outpost ใกล้ๆวิทยุ จะมีผู้หญิงนั่งกินข้าวอยู่ No.57 Mother and Child Rice Bow และ No.75 Papa Bird & Baby Bowl ที่ Lestallum ตรงจุดชมวิว หลังจากลงจากรถแล้ว ให้เดินลงบันไดแล้ววิ่งไปทางขวา จะเจอผู้หญิงนั่งกินข้าวที่โต๊ะ ตรงนี้บางทีจะบั๊คไม่เจอใครเลย ให้ไปนอนโรงแรมซักคืนก็จะเจอ **เมนูทั้ง 2 อย่าง ได้จากคนๆเดียวกัน โดยหลังจากได้เมนูแรกไป ให้ไปนอนโรงแรมแล้วกลับมาดูใหม่ จะได้อีกเมนูนึง (ต้องจบเกมก่อน ถึงจะเจอนะครับ)
A Poster ปลดล๊อค No.71 Fire-Sauce Fillet ขับรถไปจอดที่ DUSCAE: Coemix Station – Alstor มันจะแปะอยู่ประตูบ้าน ทางตะวันตกของปั้มน้ำมัน (ติดๆกันเลย) B Poster ปลดล๊อค No.25 Crown City Dive-Style Dumplings ที่อุโมงค์ บริเวณเควส the Ever Regal Regalia ของซิดนี่ C Poster ปลดล๊อค No.26 Ace Hunter’s Schnitzel ขับรถไปจอดที่ DUSCAE: Coernix Station – Cauthess จอดรถแล้วข้ามถนนไป แล้ววิ่งตรงไปจนเจอบ้านหลังนึง จะแปะอยู่ตรงประตูบ้าน D Poster ปลดล๊อค No.53 Beanball Croquettes ให้ขับรถไปจอดที่ CLEIGNE: Alpine Stable (บริเวณ Pallareth Pass) แล้ววิ่งขึ้นไปด้านบน ตามรูป(ใต้ตัว P) จะแปะอยู่บนกำแพงที่เป็นซาก E Poster ปลดล๊อค No.54 Golden Egg Galette ให้ไปที่ Cape Caem มันจะแปะอยู่ตรงป้าย ตรงระหว่างทางขึ้นไปที่พัก F Poster ปลดล๊อค No.24 Battered Barramundi ให้ขับรถไปจอดที่ Galdin Quay มันจะอยู่ด้านหน้าเลย G Poster ปลดล๊อค No.13 Classic Tomato & Egg Stir-Fry ให้ขับรถไปจอดที่ Longwythe Rest Area outpost มันจะแปะอยู่ตรงเสาข้างๆ outpost
Entry 1 ปลดล๊อค No.44 Croaker in Brown Sauce อยู่ตรงบริเวณ Saxham Outpost ตรงบริเวณใต้ตัว a ในแผนที่ มันจะวางอยู่บนโต๊ะ Entry 2 ปลดล๊อค No.38 Fried Rookie on Rice อยู่ในเมือง Lestallum ตรงข้ามกับรถขายบะหมี่ถ้วย Entry 3 ปลดล๊อค No.34 Meat-and-Beet Bouillon ขับรถไปจอดที่ Prarie Outpost จะวางอยู่บนลังใกล้ๆรถขายอาวุธ Entry 4 ปลดล๊อค No.76 Fishsticks on Sticks อยู่ที่ Galdin Quay ข้างๆกับที่จอดรถเลย Entry 5 ปลดล๊อค No.52 Tomalley-Filled Dumplings อยู่ที่ Old Lestallum บริเวณม้านั่ง ฝั่งตรงข้ามกับที่จอดรถ ติดกับสะพาน Entry 6 ปลดล๊อค No.51 Paella de Pollo อยู่ที่ Vesperpool บริเวณที่เราเจอกับอาดีนใน Chapter 7 (หายากหน่อยนะ มีแต่ป่า) Entry 7 ปลดล๊อค No.43 Salmon-in-a-Suit อยู่ตรงแคมป์ Telghey Haven camp ตรงบริเวณจุดจอดรถ Malmalam Thicket Entry 8 ปลดล๊อค No.99 Longwythe’s Peak (เมนูเนื้อเต่า) โดยต้องจบเกมก่อน แล้วไปที่จุดจอดรถ The Three Valleys ตรงที่เราเจอกับเดฟครั้งแรก(วงกลมในรูป) เข้าไปในบ้าน มันจะอยู่บนโต๊ะ
Weapon(ยังไม่เสร็จ)
ในช่วงแรกๆของเกม อาวุธดีสุดที่เราจะทำได้คือ Ultima blade ซึ่งใช้ Engine blade อัพขั้นสูงสุดเอา (รายละเอียดดูหน้า side quest) และอาวุธที่เราจะใช้ไปจนจบเกมคืออาวุธตามร้านค้าทั้งหลายที่หาซื้อได้ทั่วๆไป ตรงนี้จะขอลงแค่อาวุธสุดยอด และอาวุธที่หาเอาง่ายๆบางชนิด Soul Saber : Atk 343 Mp+12 Effect : +4% dmg ของ ทุกๆ 1% ของ Stamina หลังจากต่ำกว่า 50% ทำเควส Cursed Legend ของ Randolph ในเมือง Lestallum หลังจบเกม เป็นเควสต่อเนื่อง Ultima Blade : Atk 364 Mp+40 Magic+30 Effect : ดรอปธาตุ เวลาฆ่าศัตรุ Ultima Blade อัพเกรดมาจาก Engine Blade รายละเอียดดูหน้า side quest หัวข้อ cid quest อันแรกเลย Balmung : Atk 446 Mp+11 Effect : +4% dmg ของทุกๆ 1% mp ที่หายไป สถานที่เก็บ : ประตูล๊อคในดันเจี้ยน Steyliff Grove (ดันเจี้ยนใน Chapter 7) อยู่บริเวณแคมป์ไฟในนั้น Thunderbolt : Atk 345 Hp+246 Lightning Resit+29 Effect : ธาตุสายฟ้า สถานที่เก็บ : เก็บในดันเจี้ยน Malmalam Thicket รายละเอียดดูในหัวข้อ Royal Arm ด้านบน Iron Duke : Atk 581 Str+20 ทำเควส A Legend is Born ของ Randolph ในเมือง Lestallum หลังจบเกม Dominator : Atk 583 Hp+298 Dark Resist +32 Effect : ธาตุแสง สถานที่เก็บ : หลังจบเกม วิ่งไปเก็บได้เลยตามรูป อยู่ด้านบนปั้มน้ำมันใน Chapter 3 **สามารถเก็บได้เรื่อยๆ Apocalypse : Atk 597 Hp+403 Effect : ถ้า Hp ต่ำกว่า 30% จะ +30dmg และ +9 dmg ทุกๆ 1% ของ Hp ที่หายไปหลัง 30% สถานที่เก็บ : ด้านในประตูล๊อคของ Balove Mines จะอยู่ตรงแคมป์ที่พัก Ulric’s Daggers : Atk 234 Hp+282 Mp+24 Str+8 Vit+15 Magic+48 Spirit+20 Resit Fire+5% Ice+7% Lighting+4%Dark+19% Shot Resit+21% Effect : อัตราฟื้นฟู HP MP +1% ดาบคู่ของนิกซ์ในหนังคิงเกรฟ วิธีเก็บให้ทำตามนี้ 1.กลับไปที่ Insomnia แล้ววิ่งไปฆ่า Ifrit 2.วิ่งเข้าไปด้านในขึ้นลิฟท์ไปข้างบน 3.ลงลิฟท์กลับออกมาด้านล่าง แล้วฆ่ายักษ์แดง 2 ตัวที่อยู่ด้านหน้า 4.กลับมาบริเวณแรกสุด แถวๆที่พักแรก จะมีมอนสเตอร์ตัวนึง lv 82 ฆ่ามันแล้วจะดรอปอาวุธเป็นจุดแสงให้เก็บ Zwill Crossblade : Atk 345 Mp+5 Magic+25 Effect : ถ้าเลือดเต็ม +80% Dmg วิธีเอา : ทำเควสของ Randolph ในเมือง Lestallum หลังจบเกม ซึ่งเป็นเควสต่อเนื่องเควสสุดท้าย แนะนำให้ไปทำ Magic Break Limit Damage ธาตุอะไรก็ได้ เพราะบอส lv 120 จะแพ้ทางเวทย์ และเตรียมยาไว้เยอะๆเพราะแทบจะโดนทีเดียวตาย (แม้ lv99 ก็ตาม) Dragoon Lance : Atk 246 Resit Fire+15%Ice+14%Lightning+16% วิธีเอา : ทำเควสของ Randolph ในเมือง Lestallum หลังจบเกม Precise Lance : Atk 266 Effect : +10% Critical Rate วิธีเอา : ดันเจี้ยน Daurell Caverns ด้านในประตุล๊อค / รางวัลแลกของในอารีน่าที่อัลทิเซีย Flayer : Atk 337 Effect : Finishers deal +80% damage วิธีเอา : ดันเจี้ยน Steyliff Grove ด้านในประตูล๊อค Cerberus : Atk 156 Spirit+6 Effect : กดสามเหลี่ยมซูมได้ เป็นปืน sniper สถานที่เก็บ : Fort Vaullerey ฐานจักรวรรดิใน Chapter 6 เข้าไปเอาได้หลังถล่มฐาน Hyper Magnum : Atk 388 Spirit+21 สถานที่เก็บ : ดันเจี้ยน Keycatrich Trench ด้านในประตูล๊อค ห้องบอส Death Penalty : Atk 424 Spirit+25 Effect : มีโอกาสยิงติด Death 1% สถานที่เก็บ : เหมือง Balouve Mines ด้านในประตูล๊อค ห้องบอส
วิธีปั้ม Exp + Gil
การฟาร์ม Exp นั้น แนะนำว่า ควรทำแค่ lv ประมาณ 80-85 แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว และถ้าจะให้ไว ควรไปเก็บ Moogle Charm มาก่อน จะ +exp20% เฉพาะคนใส่ (ใส่ซ้อนกันไม่ได้ด้วยนะ) วิธีฟาร์ม Exp นั้นมีหลายวิธีด้วยกัน สิ่งที่จะนำเสนอนี้เป็นเพียง 1ในอีกหลายๆวิธีเท่านั้น แถมยังจับมาผสมกันด้วย 1.ควรเล่นให้จบเกมก่อน เพราจะใช้แหวนลูซิส 2.ไปที่เมืองอัลทิเซีย กินอาหารราคา 8000 จะเพิ่มบัฟ Exp 100% 3.ผสมเวทย์ โดยใช้ Rare Coin ที่เก็บมาได้ระหว่างเล่น แนะนำเป็นผสมเวทย์น้ำแข็ง 4.ไปที่ Vernas Mart – Ravatogh รับ Hunt เควสฆ่าไวเวิร์น 7 ตัว 5.ยิงเวทย์น้ำแข็งใส่ไวเวิร์น คล้ายๆคลิปแรก แต่เราไม่ต้องออกจากการต่อสู้ ให้ใส่แหวนลูซิส จับดูดมันให้ตายให้หมด ต่อรอบจะตกราวๆ 27k-30k Exp 6.ส่งเควส แล้ววนลูปใหม่ วิธีนี้ เราจะได้ทั้ง Exp และปีกไวเวิร์นไปขายเอาตัง 7.ฟาร์มจนพอใจแล้ว ให้กลับไปอัลทิเซ๊ย นอนโรงแรม จะได้ Exp x3 (มี 2 คนให้คุย คนนึงจะนอนแล้วคูณ 1.5 อีกคนนอนแล้วคูณ 3) แนะนำเพิ่มเติม หลังจากผสม rare coin หมดเกลี้ยงทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลาหามาเพิ่ม ให้ไปทำ side quest หรือลงดันไปทำอย่างอื่นแทน จะเข้าประตูล๊อคที่เลเวลต่ำๆหน่อยก็ได้ ซึ่งจะได้หลายแสนอยู่ ไม่จำเป็นต้องฟาร์มจน 99 ให้เสียเวลา (นอกจากจะปั้มตังต่อก็อีกเรื่อง)
วิธีฟาร์ม AP
1.เราควรจะมีโล่ Shield of the Just ซึ่งเป็น 1 ในอาวุธราชา วิธีเก็บขึ้นไปดูด้านบน 2.อย่างน้อยควรเล่นให้ผ่าน Chapter 4 ก่อน เพราะจะได้นกหวีดมาเป่าเรียกมอนสเตอร์ ซึ่งแน่นอนว่า โดนบังคับจนจบ Chapter 5 แน่นอน 3.ให้ไปที่ The Three Valleys ตามในคลิป แล้วเป่านกหวีตเรียกมอนสเตอร์ แล้วใช้โล่ warp strike เอา
Arena
อารีน่านั้น จะเป็นการพนันโดยการเลือกมอนสเตอร์ให้มาสู้กันเอง แล้วเราก็ลงชิพไปตามที่ต้องการ อารีน่าตั้งอยู่ที่เมืองน้ำอัลทิเซีย โดยเราจะต้องขึ้นเรือสายสีม่วง(ยังกับ bts) ที่อยู่ตรงด้านขวาบน เพื่อตรงไปอารีน่าได้เลย เมื่อเข้ามาในอารีน่าเราจะเจอ 4 คำสั่งดังนี้ -Wager ลงขันแทงมอนสเตอร์ที่ชอบ -Prizes แลกของรางวัล -Medals แลกชิพ โดย 1ชิพ = 10gil -Leave ออก เริ่มต้นมา ให้ไปแลกเหรียญตามกำลังทรัพย์ก่อนเลย แล้วค่อยไปลงพนัน โดยให้เราเลือกมอนสเตอร์ที่จะลงซึ่งจะบอกรายละเอียด lv แล้วจากนั้นค่อยเลือกว่าจะลงพนันไปเท่าไหร่ แล้วยืนยันอีกครั้ง หลักการลงพนันนั้น ตัว lv สูงย่อมได้เปรียบ แต่บางที ถ้า lv ห่างกันไม่มาก ก็ต้องดูว่ามอนสเตอร์ตัวไหนมันแพ้ทางกับตัวไหน ถ้ามั่นใจ ก็เทหมดตักเลย แล้วเราจะได้เหรียญมาทวีคูณ โดยสูงสุดที่ลงได้คือ 9999 ของรางวัลที่น่าสนใจในนี้ มีอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือ รอกเบ็ดตกปลา โดยพลังโจมตีจะอยู่ที่ราวๆ 300 ทำให้ดึงปลาไวขึ้น และอย่างที่ 2 คือของแต่งรถเรกาเลีย Turbo Charger ที่จะทำให้รถของเราขับได้ถึง 70 mph ช่วยย่นระยะเวลาของเราได้เป็นอย่างดี (ของแต่งข้างนอกจะอยู่ที่ 60mph) ส่วนของชิ้นอื่นๆก็แล้วแต่จะแลกตามสะดวก ในระหว่างสู้ก็ทำได้คอยสังเกตว่าศัตรูตัวไหนแพ้ทางตัวไหน และซักพักเพื่อนเราจะบอกให้เป่าแตรปลุกพลังใจ โดยเป็นปุ่มให้กด o รัวๆแบบในภาพ โดยแตรเริ่มแรกที่มันให้มาจะเป็นการฟื้นเลือดอย่างเดียว แตรที่สามารถเอาไปใช้ในอารีน่าได้ สามารถหาซื้อได้ตรงแถวๆเรือสายสีฟ้า ราคาค่อนข้างแพงเอาเรื่อง Horn of Resolve – เพิ่ม Atk Horn of Tenacity – เพิ่ม Def Horn of Cleansing – รักษา status ผิดปกติ Horn of Madness – เพิ่ม str จำนวนมาก แต่ลด Def
